กลุ่มราษฎรจ.แพร่ออกแถลงการณ์ประณามพวกตัดไม้
มติชน 16 มค. 51
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01lif05160151&day=2008-01-16§ionid=0132
เมื่อวันที่ 15 มกราคม นายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า หลังจากได้รายงานข้อเท็จจริงกรณีการลักลอบวางยาและตัดไม้สักทอง ประมาณ 300 ต้น ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ยม จ.แพร่ ให้นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับทราบ ล่าสุด กรมอุทยานฯ ได้สั่งการให้พื้นที่ปรับวิธีการตรวจลาดตระเวนป่าป้องกันการก่อเหตุซ้ำ หรือการบุกรุกพื้นที่ใกล้เคียงอื่นๆ ในเขตภาคเหนือ
นายมนูญศักดิ์ ตันติวิวัฒน์ ผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) กล่าวว่า ขณะนี้มีเบาะแสชัดเจนเรื่องเส้นทางลักลอบตัดไม้สักทองจากป่าแม่ยม พบว่ามีนายทุนในพื้นที่ จ.แพร่ เกี่ยวข้องโดยตรง เพราะจากข้อมูลการขนไม้ล่องในแม่น้ำยมลงไปและสิ้นสุดอีกพื้นที่หนึ่ง มีนายทุนที่ชาวบ้านแถวนั้นรู้จักกันดีว่าทำธุรกิจค้าไม้สัก แต่ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเพื่อจะได้มีหลักฐานมัดตัว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เป็นห่วงว่าแหล่งไม้สักทองสายพันธุ์ดีที่สุดในโลก อายุ 100 ปี ของอุทยานแห่งชาติสาละวินก็ล่อแหลมต่อการถูกลักลอบตัดเช่นกัน
วันเดียวกัน คณะกรรมการชาวบ้าน กลุ่มราษฎรรักษ์ป่าฯ ออกแถลงการณ์ ระบุว่า 1.กลุ่มราษฎรรักษ์ป่า บ้านดอนชัย บ้านดอนชัยสักทอง บ้านแม่เต้น บ้านดอนแก้ว ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ซึ่งเป็นกลุ่มชาวบ้านที่ทำหน้าที่รักษาป่าสักทองมากว่า 18 ปี ได้ประชุมหารือกันและมีมติเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจและผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ หาตัวผู้กระทำผิดและนายทุนผู้บงการมาลงโทษให้ได้ 2.ให้ตั้งคณะกรรมการกลางสอบวินัยเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ในการปกป้องรักษาป่า 3.ให้แต่งตั้งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ยมคนใหม่ทำงานร่วมกับชาวบ้าน และให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า งบประมาณ เพื่อเสริมสมรรถนะในการปกป้องป่าสักทอง และ 4.ให้รักษาไม้ของกลาง ไม้สักทองที่ยืนตายให้อยู่ในสภาพเดิม โดยห้ามตัด ห้ามชักลากออกจากพื้นที่โดยเด็ดขาด เพื่อเป็นอนุสาวรีย์ประจานความอัปยศที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุว่า ขอประณามผู้กระทำการทำลายป่า รวมถึงผู้บงการ และชื่นชมกับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางและจังหวัดแพร่ ที่เร่งรัดดำเนินการเรื่องนี้อย่างขันแข็ง |
