eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

อ.จุฬาฯ อัดปาก 'สมัคร' ด่าสัตว์โง่ปลุก 'เสือเต้น' ขาดวุฒิภาวะ! ชาวบ้านท้านายกฯ ลาออก

มติชน 06 มิถุนายน 2551  http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=2210

อาจารย์จุฬาอัด'สมัคร' ประกาศสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ควรพูดอย่างมีวุฒิภาวะให้มีสติ-หลักการ บอกสัตว์ 'โง่-ฉลาด'อย่าพูดแค่ความสะใจ กลุ่มต่อต้านสร้างเขื่อนท้านายกฯลงสำรวจ'ต้นสักทอง'หากน้อยกว่า 5 หมื่นพร้อมถอย หากมีเกินรัฐบาลต้องยุติสร้างแบบถาวรและลาออก

กรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แสดงปาฐกถาในวันสิ่งแวดล้อมโลก โดยบอกว่าจะต้องสร้างเขื่อนเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขื่อนแก่งเสือเต้นที่ จ.แพร่ เพราะป่าสักทองในลุ่มน้ำยมเวลานี้เป็นป่าเสื่อมโทรมมีไม้แค่ไม่กี่ต้นรวมไปถึงมีนกยูงโง่แค่ 3 ตัว อาศัยอยู่เท่านั้น

นายสุริชัย หวันแก้ว ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทางสังคม คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์วันที่ 6 มิถุนายน ว่า ไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรีต้องการอะไร จึงใช้เวทีของวันสิ่งแวดล้อมโลกพูดออกมาเช่นนั้น เพราะหากจะโยงเอาสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในประเทศไทย เพื่อโยงกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในโลก ก็น่าจะพูดอย่างมีวุฒิภาวะมากกว่านี้

'บอกว่าสัตว์ตัวนั้นโง่ สัตว์ตัวนี้ฉลาด ไม่ได้มีความหมายอะไร แต่ก็ไม่แน่ใจที่บอกว่า นกยูงโง่ 3 ตัว นั้นมีความหมายอย่างอื่นหรือไม่ แต่ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าในวันสำคัญของคนทั่วโลกอย่างนี้ตัวนายกรัฐมนตรีจะต้องมีเจตนาที่ดีงาม ต้องพูดจาให้สติให้หลักการ จะบอกว่าการสร้างเขื่อนเป็นสิ่งที่ดีก็ได้ แต่ต้องมีวิธีพูดที่ดีกว่านี้ พูดให้เห็นว่าการจะตัดสินใจทำอะไรนั้น มีความรอบคอบอย่างไรบ้าง เพราะสังคมทุกวันนี้ไม่ได้มีเฉพาะคนสนับสนุน หรือต่อต้านเขื่อนเท่านั้น แต่มีคนอีกมากที่อยากจะรู้ว่าก่อนจะไปถึงจุดที่จะสร้างหรือไม่สร้างนั้นมีกระบวนการอย่างไรบ้าง' นายสุริชัยกล่าว

นายสุริชัยกล่าวว่า ในเรื่องการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นนั้น มีองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ใช่มีเพียงต้นสักกับนกยูง มีเรื่องระบบนิเวศลุ่มแม่น้ำยม มีทั้งวิถีการดูแลป่าของชาวบ้านในพื้นที่นั้น มีความหลากหลายระบบนิเวศที่ชาวบ้านเคยทำออกมาเป็นงานวิจัย มีนักวิชาการรับรองด้วยซ้ำ แต่ไม่ถูกนำมาพูดถึง พูดแต่เรื่องที่ตัวเองคิดว่าพูดแล้วสะใจเท่านั้น ซึ่งไม่เหมาะสมอย่างมากที่คนระดับนายกรัฐมนตรีทำอย่างนี้

นายสุริชัยกล่าวว่า ส่วนเรื่องนี้นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ออกมาตอบรับทันที ที่นายสมัครบอกว่าจะสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นนั้น เห็นว่าการที่นางอนงค์วรรณเห็นด้วยกับการสร้างเขื่อนนั้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ไม่ใช่ตอบรับทันทีโดยไม่มีเหตุผลรองรับ ทราบว่ารัฐมนตรี ทส.มีที่ปรึกษาที่มีฝีมือดีหลายคน น่าจะให้คำแนะนำที่ดีกว่านี้ ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไม่ค่อยสบายใจหากคนระดับผู้นำมีแต่ความอยากโดยขาดความรอบคอบ โครงการขนาดใหญ่และมีความสำคัญ ได้รับผลกระทบมากขนาดนี้จะต้องใช้เหตุผล ความรอบคอบสูงไม่ใช่ใช้วิธีการพวกมากลากไป รัฐมนตรีจะต้องสร้างความมั่นใจให้ประชาชนมากกว่านี้

วันเดียวกัน ที่ จ.แพร่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายสมัครกล่าวถึงแนวจะฟื้นการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ทำให้แกนนำชาวบ้าน ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ นำโดย นายชุม สะเอียบคง กำนันตำบลสะเอียบ นายภิญโญ ชมพูมิ่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สะเอียบ, นายเส็ง ขวัญยืน ผู้ใหญ่บ้านดอนไชยสักทอง และนายอุดม ศรีคำภา แกนนำต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น ร่วมกันประชุมด่วนที่บ้านดอนแก้ว ต.สะเอียบ เพื่อหารือในการต่อต้านโครงการ เบื้องต้นให้คณะกรรมการหมู่บ้านดำเนินการแจ้งข่าวสารให้ประชาชนในพื้นที่ทุกหลังคาเรือนทราบเพื่อเตรียมการแก้ปัญหา
ขณะที่ชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์กรณีนายสมัครระบุถึงจำนวนต้นสักทองและนกยูงในพื้นที่สร้างเขื่อน พร้อมกล่าวท้าทายนายสมัครว่าหากมีต้นสักทองน้อยกว่า 50,000 ต้น ชาวบ้านจะประกาศยอมแพ้ และอพยพออกจากพื้นที่ทันที แต่หากมีต้นสักทองเกิน 50,000 ต้น ขอให้นายสมัครประกาศยุติโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นแบบถาวร หรือลาออกจากการเป็นผู้บริหารประเทศ

นายภิญโญกล่าวว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่ทราบข่าว กรรมการหมู่บ้านกำลังสื่อสารให้ทราบ และเตรียมแผนประชุมใหญ่ ก่อนหน้านี้ได้นำเรื่องนี้เข้าพูดคุยในที่ประชุมประจำเดือนไปแล้ว ที่ผ่านมาชาวสะเอียบเชื่อว่าหลังเลือกพรรคพลังประชาชนแล้วจะไม่มีการสร้างเขื่อน ตามที่นักการเมืองหาเสียง แต่ขณะนี้มีคำพูดเรื่องการสร้างเขื่อนจากปากของหัวหน้าพรรคโดยตรง ทำให้ชาวสะเอียบผิดหวังมาก เชื่อว่าจะมีการรวมตัวกันเร็วๆ นี้เพื่อต่อต้านโครงการ ไม่คิดว่านายกรัฐมนตรีจะสามารถทำให้บ้านเมืองแตกแยกขนาดนี้ หลังจากชาวสะเอียบอยู่อย่างสงบมาโดยตลอด

นางกรรณิการ์ ชมพูศรี เลขานุการเครือข่ายทรัพยากรจังหวัดแพร่ กล่าวว่า โครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นถูกพัฒนาไปจนอยู่ในจังหวะที่ทุกฝ่ายรับได้ โดยการสร้างแหล่งน้ำขนาดเล็กเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง แต่รัฐก็ไม่ยอมทำ และกลับเปิดประเด็นสร้างเขื่อนขึ้น การพูดของนายสมัครมองได้ 2 ทาง คือ 1.เร่งดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ได้มองกฎหมายสูงสุดของประเทศ สิทธิของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ไม่สนใจรัฐธรรมนูญ และ 2.ต้องการเปิดข่าวเพื่อปกป้องตัวเองหลังจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรมีแนวร่วมเพิ่มขึ้น เพื่อย้ายความสนใจออกจากข่าวการโจมตีขับไล่รัฐบาล ซึ่งนายสมัครคิดผิด

'การเปิดประเด็นสร้างเขื่อนไม่สามารถหยุดชาวนาลุ่มน้ำยมที่จะต่อต้านนายสมัครได้ เนื่องจากขณะนี้ราคาข้าวของแพงสุดกู่ อีกทั้งเครือข่ายต้านเขื่อนแก่งเสือเต้นอาจรวมตัวครั้งใหญ่ ส่วนจะรวมกับม็อบพันธมิตรหรือไม่เป็นอีกเรื่อง แต่จะทำให้รัฐบาลจบชีวิตเร็วขึ้น เครือข่ายพัฒนาองค์กรชาวบ้านเพื่อการพึ่งตนเอง จ.แพร่ จะเร่งหารือกับเครือข่ายทรัพยากร เครือข่ายที่ดิน และเครือข่ายต่างๆ ในภาคเหนือเพื่อหาทางหนุนชาวสะเอียบต่อไป' นางกรรณิการ์กล่าว

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา