eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

'ในหลวง'ทรงห่วง'บางปะกง'น้ำเน่า

ข่าวสด ๒๙ มค.๔๕

'ทักษิณ'บุกตรวจเขื่อนทดน้ำบางปะกง หลังเกิดปัญหาน้ำเน่าเสีย อีกทั้งตลิ่งพัง จนชาวบ้านที่อยู่รอบบริเวณเดือดร้อนบ่อกุ้งและพื้นที่การเกษตรเสียหาย เกิดปัญหาแยกน้ำจืดและน้ำเค็ม เผยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นห่วง นายกฯรับสนองพระราชดำริ สั่งการให้ทหาร ผู้ว่าฯฉะเชิงเทราและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือขจัดปฎิกูลจากฟาร์มเลี้ยงหมูที่ปล่อยของเสียลงในแม่น้ำ พร้อมสั่งกรมชลประทานหาแนวทางแก้ไขเสนอครม.ภายใน 3 เดือน ระบุต้องเร่งแก้ไข เน้นแก้ทั้งระบบให้ครบวงจร

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 ม.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี่ และสิ่งแวดล้อม นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ รมช.เกษตรฯ เดินทางมาตรวจเยี่ยมโครงการเขื่อนทดน้ำบางประกง ตั้งอยู่ที่ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีนายพิสิฐ เกตุผาสุข ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา และข้าราชการคอยต้อนรับ

จากนั้นนายพิสิฐ กล่าวรายงานสรุป ตอนหนึ่งว่า เขื่อนทดน้ำบางปะกงสร้างมาตั้งแต่ปี 2539 เสร็จปี 2542 แต่เมื่อทำการทดลองปิดเขื่อน ทำให้เกิดผลกระทบหลายอย่าง เช่น ทำให้เกิดความแตกต่างของระดับน้ำเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน ซึ่งระดับน้ำสูงสุดด้านท้ายเขื่อน สูงกว่าระดับปกติประมาณ 0.35 เมตร ระดับน้ำต่ำสุดด้านท้ายเขื่อนต่ำกว่าระดับปกติ 0.75 เมตร นอกจากนี้ยังเกิดการพังทลายของตลิ่งด้านท้ายเขื่อนในช่วงน้ำลงต่ำสุด ทำให้พื้นที่ชายฝั่งเกิดการทรุดตัวพังลงมา และมีน้ำท่วมขังในพื้นที่เกษตรกรรม บ่อกุ้ง รวมทั้งอาคารบ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ท้ายเขื่อน ทำให้พื้นที่ต่ำเสียหาย เพราะตอนที่น้ำขึ้นสูงสุด ระดับน้ำจะสูงกว่าระดับปกติมาก

นายพิสิฐ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังเกิดผลกระทบต่อคุณภาพน้ำ เนื่องจากเกิดการเน่าเสียของน้ำในแม่น้ำบางปะกง และคลองในสาขาต่างๆที่เชื่อมต่อกัน เกิดผลกระทบต่อคุณภาพน้ำและสัตว์น้ำในแม่น้ำบางปะกง นอกจากนี้ ยังเกิดปรากฏการณ์น้ำเปลี่ยนสีในแม่น้ำบางปะกง ในช่วงทดลองปิดเขื่อนในปลายเดือนมกราคม ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 43 โดยสีของน้ำเปลี่ยนจากสีเขียวใสเป็นสีแดงขุ่น ปลาในน้ำลดจำนวนลงอย่างมาก และการตรวจสอบโดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กรมประมง และกองสิ่งแวดล้อม พบว่ามีสาหร่ายสีน้ำตาลแดงจำนวนมาก ซึ่งลักษณะดังกล่าวจะพบตามปากแม่น้ำที่ไหลสู่ทะเล เช่น ที่อ่าวไทยเท่านั้น ไม่เคยพบในแม่น้ำลึกเช่นนี้มาก่อน

"นอกจากนี้ ผลกระทบจากการเลี้ยงกุ้งกุลาดำที่ตั้งอยู่เหนือเขื่อนทดน้ำบางปะกงจำนวน 4,198 ราย หรือพื้นที่เพาะเลี้ยงประมาณ 29,000 ไร่เศษ ซึ่งเคยมีน้ำกร่อยขึ้นถึง หากมีการปิดบานประตูระบายน้ำพื้นที่เหนือเขื่อนจะกลายเป็นน้ำจืด ซึ่งจะเกิดผลกระทบต่อการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงสุกร ซึ่งมีฟาร์มที่เลี้ยงใกล้แม่น้ำบางปะกง 176 แห่ง หากมีการปิดเขื่อนทดน้ำที่บริเวณเหนือเขื่อน น้ำก็จะนิ่ง ไม่มีการถ่ายเท จะทำให้เกิดน้ำเสีย เพราะมีสิ่งปนเปื้อนจากฟาร์มสุกร ทำให้เกิดตะกอนทับถม หากไม่มีการถ่ายเท ตะกอนเหล่านี้ก็จะเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งปฏิกูลได้ และจะส่งผลกระทบกับดำเนินชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำบางปะกง และผู้ที่ใช้เรือเดินทางไปมา กระทบประเพณีทางเรือของหลวงพ่อพุทธโสธร ทำให้ไม่สามารถขึ้นไปถึงเหนือเขื่อนได้" ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา กล่าว

หลังฟังบรรยายสรุป พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งกำชับไปยังอธิบดีกรมชลประทาน อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นเจ้าภาพหลักในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการขจัดของเสียที่เป็นสิ่งปฏิกูลจากฟาร์มเลี้ยงสุกร ซึ่งอันดับแรกให้กรมชลประทานสรุปแก้ไขปัญหาเพื่อเสนอต่อครม.ภายใน 3 เดือน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาในทุกๆ จุด รวมทั้งกำชับให้ส.ส.ในเขตให้ดูแลอีกทางหนึ่งด้วย

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงประชาชนจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเฉพาะชาวบ้านที่เดือดร้อนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงที่มีชีวิตประจำวันต้องพึ่งพาอาศัยน้ำ ทรงสั่งการให้ตนมาเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยด่วน จากการได้รับรายงานทราบว่าหลังปิดประตูเขื่อนจะทำให้เกิดตลิ่งพังในจุดต่างๆประมาณ 12 จุด มีปัญหาในการแยกน้ำเค็ม น้ำจืด ซึ่งยังไม่เรียบร้อย อีกทั้งยังมีการทิ้งมูลสุกรและน้ำเสียลงในแม่น้ำบางปะกงจำนวนมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงเป็นห่วงและรับสั่งให้ตนเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว ซึ่งการแก้ปัญหาอย่างแรก คือต้องแก้ปัญหาน้ำเสียจากสิ่งปฏิกูลต่างๆก่อน และแก้ปัญหาอื่นๆแบบครบวงจร และวันนี้เร่งรัดให้ทุกฝ่ายแก้ปัญหาโดยเร็วแล้ว โดยขอให้ฝ่ายทหารมาช่วยร่วมทำงานกับกรมปศุสัตว์ กรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งคงใช้เวลาไม่นานนัก

"สำหรับการทิ้งของเสียลงแม่น้ำบางปะกงนั้นคงต้องรอผลการศึกษา ซึ่งอาจจะต้องทำแก้มลิงเพิ่ม รวมทั้งเรื่องการปรับประตูเขื่อน เพื่อไม่ให้น้ำทะเลขึ้นไกลเกินไป ขณะเดียวกันจะสามารถป้องกันตลิ่งไม่ให้พังลงมา ซึ่งทางกรมชลประทานเองตั้งทีมศึกษา ซึ่งผมขอให้เร่งทำให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาได้ทันท่วงที"นายกฯกล่าว และว่า ส่วนเรื่องงบประมาณก็ไม่เป็นปัญหา และคงใช้ไม่มากเนื่องจากเป็นการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่งบในส่วนของการสร้างใหม่ อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่มีการศึกษาตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะไม่มีการปิดประตูน้ำ เสมือนกับที่ยังไม่มีเขื่อนอยู่ เพราะที่ผ่านมาปิดแล้วทำให้เกิดปัญหา

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้กรมปศุสัตว์เข้าไปให้ความช่วยเหลือและร่วมมือกับผู้เลี้ยงฟาร์มสุกร โดยเฉพาะฟาร์มที่อยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ประมาณ 170 ฟาร์ม โดยฟาร์มขนาดกลางและใหญ่จะช่วยกันออกเงินคนละครึ่ง ในเรื่องบำบัดน้ำเสียที่ไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกง แต่ถ้าเป็นฟาร์มขนาดเล็ก รัฐบาลจะเข้าไปช่วย จากการประเมินแล้วจะใช้งบประมาณไม่มาก

ด้านนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอของผู้คัดค้านหลายลุ่มที่จะให้รัฐมาเป็นคนกลางในการจัดเวที แต่ควรนำข้อมูลทางวิชาการทั้งหมดมาศึกษาประกอบ เนื่องจากกตอนนี้ข้อมูลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมยังไม่เพียงพอ อย่างไรด็ตามเมื่อนายกฯลงมาดูข้อเท็จจริงแล้ว เชื่อว่าการแก้ปัญหาจะรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยชาวบ้านและกำชับรัฐบาลมาถึง 2 ครั้งว่าให้เร่งดูแลแก้ปัญหาให้ชาวบ้านโดยเร็วที่สุด

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา