ไทสัน : เมื่อสองเดือนหรือประมาณ 9 สัปดาห์ที่แล้ว ประตูขนาดใหญ่ 8 บานของเขื่อนปากมูน ที่อยู่ห่างจากจุดบรรจบแม่น้ำโขง 4.5 กม. ถูกเปิดขึ้น เหตุผลที่เปิดคือเพื่อจะได้ดูว่า การเปิดประตูจะช่วยฟื้นฟูการประมงในลำน้ำมูนให้กลับคืนมาได้หรือไม่ ผมคิดว่า หลักๆก็คือว่า ถ้าคุณเปิดประตู ปลาในช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งก็ 9 สัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้กลาง ใกล้จะปลายเดือนสิงหาคม ในเดือนมิถุนากับกรกฎา ซึ่งเป็นช่วงที่ปลาส่วนใหญ่อพยพจากแม่น้ำโขงมายังแม่น้ำมูน ถ้าคุณเปิดประตูระบายน้ำ ปลาก็จะอพยพขึ้นมาอีก และชาวประมงก็จะสามารถจับปลาที่อพยพขึ้นมาได้ส่วนหนึ่ง แล้วปลาส่วนที่เหลือก็จะสามารถว่ายไปต่อ แล้วก็วางไข่ เพิ่มจำนวนปลาให้กับลำน้ำมูน และแหล่งปลาฟื้นคืนมา ผมคิดว่าว่านี่คือความคาดหวังหลัก และผมก็ยังคิดว่า มันก็เป็นไปอย่างนั้นจริงๆ
แต่ผมคิดว่า นี่เป็นเพียงคำอธิบายบางส่วนว่าทำไมเรามีแหล่งปลากลับคืนมาบ้างในบริเวณเหนือเขื่อนปากมูน ที่เป็นบริเวณอ่างเก็บน้ำยาว 40 กม. ที่เกิดขึ้นมาโดยเขื่อนปากมูล แต่ผมคิดว่าปลาส่วนใหญ่ที่จับได้คราวนี้ ช่วงกลางถึงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ผมมาที่นี่ได้สัก 2-3 วันแล้ว ผมก็เลยได้เห็นปลาที่จับได้จำนวนมากทีเดียว เป็นปลาที่ไม่สามารถอยู่อาศัยในอ่างเก็บน้ำได้ เมื่อประตูถูกปิดและเขื่อนยังคงถูกใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงความต้องการสูงสุด ปลาเหล่านั้นไม่สามารถอยู่ได้เพราะน้ำขุ่นมากเกินไป บริเวณก้นอ่างขุ่นมาก เนื่องจากมีตะกอนเพราะเขื่อนขวางทางน้ำไว้อยู่ ทำให้น้ำไหลช้าลง ตะกอนก็นอนก้นแทนที่จะไหลไปตามน้ำตามปกติ ดังนั้นทุกวันเมื่อเขื่อนถูกใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า ตะกอนพวกนี้ก็จะถูกกวนขึ้นมา ผมคิดว่าปลาไม่สามารถอาศัยอยู่ในช่วง 40 กม.นี้ได้ด้วยเหตุผลนี้ ผมคิดว่า เหตุผลหนึ่งที่ชาวบ้านจับปลาได้คราวนี้ ไม่ใช่แค่ว่าปลาทวนน้ำขึ้นมาจากแม่น้ำโขง แต่ปลาว่ายตามน้ำลงมาจากแม่น้ำมูนทางบนๆลงมามากกว่า พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นปลาขนาดเล็กและไม่ค่อยอพยพมากนัก แต่พวกมันว่ายตามน้ำลงมาและตอนนี้อยู่ที่นี่ พวกมันสามารถอยู่ที่นี่ได้เพราะสภาพลำน้ำได้ถูกฟื้นคืนสภาพด้วยการปล่อยให้น้ำไหลผ่านประตูไปได้ ทันทีที่ประตูเหล่านั้นถูกปิด ผมคิดว่าปลาเหล่านี้ก็จะหายไปจากบริเวณอ่าง 40 กม.นี้อีก
ยังมีอีกอย่างหนึ่ง ที่ผมไม่คิดว่า การเปิดประตูจะสามารถฟื้นคืนการอพยพของปลาที่สำคัญในลำน้ำมูนได้ เพราะผมคิดว่า ประตูระบายน้ำเป็นตัวกีดขวางที่สำคัญมาก มันไม่ง่ายนักที่จะว่ายผ่านไปได้ ประตูมันมีโครงสร้างซีเมนต์ที่ซับซ้อน อยู่ข้างล่าง ที่เป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับปลาที่จะว่ายขึ้นมา ผมมีความสงสัยอย่างมากว่าการอพยพนี้จะฟื้นคืนได้มากแค่ไหน ตราบใดที่ยังมีเขื่อนนี้อยู่ และต่อให้การอพยพกลับคืนมา ระบบนิเวศน์ของปลาจะไม่มีทางฟื้นคืนมาได้เลยด้วยการเปิดประตูเพียงเท่านั้น
มันไม่ใช่หน้าที่ของผม ผมไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือและทุน และไม่มีปัจเจกบุคคลคนใดสามารถศึกษาการอพยพของปลาผ่านประตูพวกนี้ และผมก็ไม่เห็นใครที่จะศึกษาปัญหาว่า ปลาจะสามารถ
และปลาชนิดไหนที่สามารถผ่านประตูพวกนี้ได้ ผมไม่เห็นใครที่มานี่ตั้งแต่เปิดประตูเมื่อ 9 สัปดาห์ที่แล้ว จะศึกษาอย่างจริงจังถึงการเคลื่อนย้ายของปลาในบริเวณเหนือและล่างประตู เพื่อให้รู้ว่ามีการเคลื่อนย้ายผ่านประตูพวกนั้นหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน ยังไม่มีใครทำ และผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ต้องทำ
เขื่อนปากมูน ให้บทเรียนอะไรกับสังคมไทย และสังคมโลก
ไทสัน : ปากมูนเป็นบทเรียนสำหรับชาวเอเชียเขตร้อน คือว่า เขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า จะเปลี่ยนแม่น้ำให้มีสภาพที่ไม่น่าอยู่อย่างยิ่งสำหรับปลา แน่นอนว่าผมจำกัดตัวเองเฉพาะเรื่องปลา แต่ผมคิดว่ามีสิ่งอื่นๆอีกมากเกี่ยวข้องด้วย แต่ผมจำกัดตัวเองอยู่ที่ปลา และตอนนี้เรามีตัวอย่างอยู่เบื้องหน้าเราที่แสดงให้เห็นว่าเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าในลุ่มน้ำโขงเลวร้ายอย่างไร มันส่งผลเลวร้ายอย่างไรต่อแม่น้ำสายนี้ที่มีปลาอุดมสมบูรณ์ถ้าไม่มีเขื่อน
ถึงกระนั้น เกือบทุกรัฐบาลในแถบนี้และหน่วยงานระหว่างประเทศขนาดใหญ่ทั้งหมด หน่วยงานพัฒนาต่างๆ กำลังโปรโมทการสร้างเขื่อนในประเทศลุ่มน้ำโขงเกือบทุกประเทศ ทั้งจีน พม่า ลาว เวียตนาม เขมร มีแต่เมืองไทยที่ดูจะไม่โปรโมทการสร้างเขื่อนในประเทศตัวเองอีกแล้ว แต่จริงๆแล้วรัฐบาลไทยก็กำลังสนับสนุนการสร้างเขื่อนในประเทศเพื่อนบ้าน ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องแย่ และบางทีเป็นการไม่ฉลาดเพราะอนาคตของเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้านั้นสั้นมาก และในไม่ช้าเราก็จะมีแหล่งพลังงานทางเลือก ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า และไม่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ไม่ช่วยซ้ำเติมให้เกิดความยากจนเหมือนที่ปากมูนทำ
ผมคิดว่าโครงการที่น่าหวั่นใจมากที่สุดกำลังเกิดขึ้นโดยประเทศจีน บนแม่น้ำลานคัง(Lancang ชื่อที่คนจีนเรียกแม่น้ำโขงจ๊าด คนแปล) พวกเขาสร้างแล้วหนึ่งแห่ง สูงประมาณ 113 ม. เรียกว่า มานวาง(Manwang) แล้วยังกำลังวางแผนที่จะสร้างอีก 6-7 เขื่อนบนแม่น้ำโขงในจีน ซึ่งจะสูงตั้งแต่ 100-300 ม. และยังวางแผนด้วยที่จะสร้างทางเดินเรือในลำน้ำโขงตามน้ำลงมาจากจีนจนถึงทะเลจีนใต้ ระยะทางประมาณ 2,500 กม. นี่จะสร้างความหายนะจริงๆให้กับระบบนิเวศน์ทั้งหมดในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ผมไม่ได้พูดถึงแค่แม่น้ำโขง ผมพูดถึงลำน้ำโขงจะถูกทำลาย และระบบนิเวศน์ของมนุษย์ทั้งหมดของประเทศทางตอนล่างรวมจีนด้วยจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จีนดูเหมือนว่าแน่วแน่ที่จะเดินหน้าโครงการต่อ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่สำเหนียกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับทางตอนล่างของลำน้ำ
ผมกลัวจริงๆ ผมคิดว่าทำไมประเทศไทย ยกตัวอย่าง ซึ่งอาจจะไม่ถูกกระทบมากนักโดยตรง ไม่เท่าลาว เขมร เวียตนาม แต่ผมคิดว่าประเทศไทยและคนไทยควรใส่ใจอย่างยิ่ง เพราะประเทศเพื่อนบ้านจะถูกผลกระทบอย่างหนัก ถ้าจีนเดินหน้ากับแผนการสร้างเขื่อนกับทางเดินเรือบนลำน้ำโขง เพื่อนบ้านของไทยอย่าง ลาว เวียตนาม เขมรจะย่อยยับ ผมคิดว่า คงไม่มีประเทศไหนที่อยากให้เพื่อนบ้านถูกทำลาย เพราะมันไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย แม้แต่คนที่เห็นแก่ตัวมากที่สุดในโลกก็ไม่อยากให้เพื่อนบ้านถูกผลกระทบทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ไม่ใช่เฉพาะคนจนเท่านั้น แต่ผมนึกถึงคุณภาพชีวิตทั้งหมด รากฐานของชีวิต การเกษตร ประมง ป่าไม้ ทุกแง่มุมของคุณภาพชีวิตจะถูกกระทบอย่างร้ายแรงจากโครงการของจีน ถ้ามีการเดินหน้า และผมคิดว่าจะมีประโยชน์เล็กน้อยมากต่อลาว เขมร และเวีนตนาม