eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

แถลงการณ์
กรณีอุทกภัยแม่น้ำโขง บทบาทของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง เขื่อนจีน และระบบเตือนภัย

๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๑

อุทกภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขงนับตั้งแต่ อ.เชียงแสน  อ.เชียงของ จ.เชียงราย ลงไปจนถึงเวียงจัน จ.หนองคาย และนครพนม เครือข่ายประชาสังคมไทยเพื่อแม่น้ำโขง มีข้อสังเกตและข้อเรียกร้องดังนี้

บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง
คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม มีเนื้อหาที่ขัดแย้ง โดยระบุว่าอุทกภัยที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากพายุเขตร้อนคามูริ ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น และน้ำโขงที่เวียงจัน ๕๐ % มาจากจีน ที่เหลือมาจากน้ำสาขา และระบุอย่างชัดเจนว่าระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นมิได้เกิดจากการปล่อยน้ำจากเขื่อนในจีน ซึ่งมีปริมาณกักเก็บน้ำน้อยเกินกว่าจะสร้างผลกระทบต่ออุทกวิทยาในแม่น้ำโขง

อนึ่ง การที่ MRC อ้างปริมาณน้ำโขงที่เวียงจันว่าเป็นน้ำที่ไหลมาจากจีน ๕๐ % เป็นการให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน เพราะMRC ไม่ได้ชี้แจงให้ชัดเจนว่าปริมาณน้ำท่วมที่อ.เชียงแสน อ.เชียงของ จ.เชียงราย เป็นน้ำที่มาจากจีนเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ และเกี่ยวข้องอย่างไรกับการปล่อยน้ำของเขื่อนในจีน

ทั้งนี้ เขื่อน 3 แห่งในจีนมีความจุอ่างเก็บน้ำรวมกัน 3,043 ล้าน ลบ.ม. คือเขื่อนม่านวาน มีความจุ 920 ล้าน
ลบ.ม. ผนวกกับเขื่อนต้าเฉาซานที่มีความจุอ่างเก็บน้ำ ๘๙๐ ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนจิ่งหง ๑,๒๓๓ ล้าน ลบ.ม.

นอกจากนี้ แถลงการณ์ฉบับดังกล่าวยังระบุว่ามีการแจ้งเตือนภัยระหว่างสถานีวัดน้ำที่เชียงแสน และจิ่งหง ซึ่งเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงที่ตั้งอยู่ใกล้ที่สุด และมีการประสานงานกันในเครือข่ายสถานีวัดน้ำทั้ง ๑๘ แห่ง ซึ่งน้ำจะใช้เวลาเดินทางจากจิ่งหงลงมาถึงเชียงแสน ๒๑ ชั่วโมง เชียงแสนถึงหลวงพระบาง ๑๗ ชั่วโมง และหลวงพระบางถึงเวียงจัน ๒๔ ชั่วโมง ทำให้ MRC สามารถแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันการณ์

เครือข่ายประชาสังคมไทยเพื่อแม่น้ำโขง มีข้อสังเกตว่า MRC เป็นตัวแทนของหน่วยงานรัฐบาล ๔ ประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ไม่มีหน้าที่แก้ตัวแทนเขื่อนจีน แต่ควรประสานงานกับเครือข่ายสถานีวัดน้ำ โดยเฉพาะสถานีจิ่งหง และแจ้งเตือนภัยแก่สาธารณะทันที ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา MRC ทำเพียงประกาศเตือนภัยทางเว็บไซต์ จึงกล่าวได้ว่า MRC มีข้อมูลระดับน้ำและตระหนักดีว่าน้ำจากแม่น้ำโขงตอนบนในจีนจะหลากท่วมพื้นที่ตอนล่าง แต่กลับไม่ประกาศต่อสาธารณะผ่านสื่อต่างๆ ให้ประชาชนทั่วไปได้เตรียมตัวป้องกันความเสียหาย

ระบบเตือนภัย และเขื่อนแม่น้ำโขงในจีน
นับตั้งแต่มีแผนการสร้างเขื่อนแห่งแรกบนแม่น้ำโขงในปี ๒๕๓๙ จีนได้อ้างมาโดยตลอดว่า เขื่อนในจีนจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในฤดูแล้ง และป้องกันน้ำท่วมในฤดูฝน แต่อุทกภัยที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นว่าปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากแม่น้ำโขงสายหลัก มิได้มาจากน้ำสาขาในไทยหรือลาว ตรงกับที่หนังสือพิมพ์เซียงไฮ้เดลี่ วันที่ ๑๓ สิงหาคม รายงานข่าวความเสียหายจากพายุในมณฑลยูนนาน ซึ่งอยู่ทางตอนบนของแม่น้ำโขง รายงานข่าวระบุว่าประชาชนกว่า ๑,๒๕๐,๐๐๐ คน ใน ๑๑ เมือง ได้รับความเดือดร้อน มีผู้เสียชีวิต ๔๐ คน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงชี้ให้เห็นว่า ปริมาณน้ำจากตอนบนในจีน มีนัยยะสำคัญต่อปริมาณน้ำและอุทกวิทยาในแม่น้ำโขงตอนล่าง โดยเฉพาะที่จ.เชียงราย แต่ระบบเตือนภัยที่มีอยู่นั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

เครือข่ายประชาสังคมไทยเพื่อแม่น้ำโขง จึงขอเรียกร้องให้ MRC ตอบคำถามของสาธารณะ ว่าปริมาณน้ำจากทางตอนบน โดยเฉพาะจากเขื่อน ๓ แห่งในจีน จะสร้างความเสียหายต่อพื้นที่ใดบ้าง รวมถึงข้อมูลระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำตั้งแต่เขื่อนม่านวาน เขื่อนต้าเฉาซาน และเขื่อนจิ่งหง ทั้งนี้เพื่อให้มีการเตรียมการป้องกันภัยได้อย่างทันท่วงที และเพื่อเป็นการพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างของ MRC เรื่องมีการแจ้งเตือนจากจีนมาก่อนหน้า มิเช่นนั้นจะเป็นเพียงการกล่าวอ้างที่ปราศจากหลักฐานข้อเท็จจริงรองรับ

แถลงการณ์ของ MRC หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามว่าเขื่อนในจีนได้มีบทบาทอย่างไรต่อสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ การกล่าวเพียงว่า อ่างเก็บน้ำของเขื่อนในจีนมีความจุน้อยเกินไปที่จะควบคุมอุทกวิทยาของน้ำโขงตอนล่าง เป็นการพูดที่น่าอับอายมากที่สุด บนความพิบัติและความเดือดร้อนของประชาชนในลุ่มน้ำโขงตอนล่างในขณะนี้

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา