คณะกรรมการเขื่อนโลก ( The World Commission on Dams, WCD ) ได้ถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541 โดยการสนับสนุน ของธนาคารโลก (World Bank) และ IUCN (The World Conser-vation Union) โดยที่คณะกรรมการนี้เป็นองค์กร อิสระไม่ขึ้นกับองค์กรที่สนับสนุน การก่อตั้งทั้งสอง
บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการตามสองเป้าหมายหลักที่ได้ตั้งไว้คือ เพื่อศึกษาทบทวนผลกระทบ ของโครงการเขื่อนและ ประเมินทาง เลือกในการพัฒนาแหล่งน้ำและพลังงาน และเพื่อพัฒนามาตรฐาน แนวทางและเกณฑ์ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับ สากลในการทำการวางแผน ออกแบบ ก่อสร้าง ติดตามผล ดำเนินงาน และการรื้อถอนเขื่อน
บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการเขื่อนโลกยังรวมไปถึงการศึกษาโครงการเขื่อนทั้งในรายกรณี และ ทั้งลุ่มน้ำ ผลการทำงานยัง ได้ถูก รวมไปถึง ความเข้าใจของความเที่ยงตรงแม่นยำของการประเมินค่าต้นทุน และผลประโยชน์ที่ใช้ในขบวนการวางแผนการสร้างเขื่อน และ ความจำเป็นในการฟื้นฟูระบบนิเวศน์และ การจ่ายค่าชดเชยย้อนหลังในกรณีที่ที่มีความต้องการ
การริเริ่มในการจัดตั้งคณะกรรมการทบทวนเขื่อนนี้เกิดขึ้นจากการประชุมนานาชาติประชาชนผู้ได้ รับผลกระทบจากเขื่อนซึ่งจัดขึ้น ที่เมืองคิวริทิบา (Curitiba) ประเทศบราซิล เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2540 ผู้ร่วมประชุมได้ร่วมลงนามในประกาศแห่งคูริทิบา (Curitiba Declaration) ซึ่งเรียกร้องให้มีการยุติการสร้าง เขื่อนจนกว่าข้อเรียกร้องต่างๆจะได้บรรลุผลซึ่งรวมไปถึงการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระสากล เพื่อดำเนินการ ศึกษาทบทวนอย่างครอบคลุมในโครงการเขื่อนขนาดใหญ่
คณะกรรมการนี้ประกอบด้วยกรรมการไม่เต็มเวลา 12 ท่าน ซึ่งรวมถึงประธานคือศาสตราจารย์ Kader Asmal รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำ ประเทศแอฟริกาใต้ และรองประธานคือ Shri Lakshmi Jain เอกอัคราชฑูตประเทศอินเดียประจำประเทศแอฟริกาใต้ คณะกรรมการประกอบด้วย Medha Patkar ซึ่งเป็น ผู้ก่อตั้ง Narmada Bachao Andolan ( การต่อสู้เพื่อปกป้องแม่น้ำนามาดา) Joji Carino เลขาธิการของ Interna -tional Alliance of Indigenous-Tribal Peoples of the Tropical Forest. Deborah Moore นักวิทยาศาสตร์อาวุ- โสของ Environmental Defense Fund และ Judy Henderson ประธานของ Oxfam International กองเลขานุ- การซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เต็มเวลาประมาณ 10 ท่านขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการแต่งตั้ง หัวหน้ากอง เลขานุการ จะดำรงตำแหน่งโดย Achim Steiner อดีตเจ้าหน้าที่ของ IUCN ซึ่งได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเจราจาก่อตั้ง คณะกรรมการนี้อย่างใกล้ชิด มาตั้งแต่เริ่มต้น กองเลขานุการนี้จะตั้งอยู่ที่เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้
บทบาทหน้าที่และรายชื่อของคณะกรรมการได้ถูกยอมรับโดยกลุ่มคณะผู้ร่วมการประชุม ซึ่งมี ประมาณ 40 ท่านจากกลุ่มอุตสาห กรรมการสร้างเขื่อน กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อน องค์กรพัฒนา- เอกชน ภาครัฐ และ สถาบันการศึกษา ซึ่งได้ร่วมประชุมที่เมืองแกลนด์ (Gland) ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2540 โดยการสนับสนุนของธนาคารโลก และ IUCN
การประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการเขื่อนโลกถูกจัดขึ้นที่วอชิงตัน ดีซี ในเดือนพฤษภาคม ครั้งที่ 2 ถูกจัดขึ้นที่เมืองเคปทาวน์ เมื่อเดือน กันยายน การประชุมครั้งที่ 3 รวมทั้งการไต่สวนสาธารณะจะจัด ขึ้นที่ประเทศศรีลังกาในเดือนธันวาคมนี้ รายงานสรุปขั้นสุดท้ายของคณะกรรมการ ได้ถูกกำหนดให้เสร็จสิ้น ภายในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2543
งบประมาณเบื้องต้นสำหรับการดำเนินงานของคณะกรรมการเขื่อนโลกมีประมาณ 8.4 ล้านเหรียญ สหรัฐซึ่งกำลังจะถูกจัดตั้งขึ้นมาจาก องค์กรเงินทุนนานาชาติ องค์กรเงินทุนระหว่างประเทศ และแหล่งเงิน ทุนเอกชนต่างๆ ซึ่งผู้สนับสนุนหลักน่าจะเป็นรัฐบาลของประเทศ เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน และสวิสเซอร์แลนด์
ในการประชุมครั้งล่าสุดของคณะกรรมการที่เมืองเคปทาวน์เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาได้สรุปให้ คณะกรรมการดำเนินการศึกษาทบทวน 13 ลุ่มน้ำ และ ตรวจสอบเขื่อนในรายกรณี 100-200 เขื่อน การศึกษา กรณีลุ่มน้ำจะเป็นส่วนหลักของการศึกษาทั้งหมด ในแต่ละลุ่มน้ำศึกษาจะมี เขื่อน หลักที่จะถูกพิจารณาศึกษา ในรายละเอียด นอกจากเขื่อนหลักแล้วการศึกษากรณีลุ่มน้ำนี้ยังจะได้ศึกษาถึง
ก.เขื่อนสำคัญขนาดใหญ่อื่นๆที่จำเป็นที่ต้องมีการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจกับบทบาทและผลกระ ทบของเขื่อนหลักที่จะศึกษา
ข.การศึกษาทั้งลุ่มน้ำ
การตรวจสอบเขื่อนรายกรณี 100-200 เขื่อนนั้นจะดำเนินการศึกษาทั้งในด้านข้อมูลเชิงปริมาณของ ประสิทธิภาพในการดำเนินงานของ แต่ ละเขื่อนต่างๆกัน ( เช่น โครงการกับข้อมูลที่แท้จริงของการชลประทาน การผลิตไฟฟ้า ) และข้อมูลเชิงคุณภาพในด้านผลกระทบการพัฒนา
คณะกรรมการจัดการไต่สวนสาธารณะขึ้นเพื่อให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อนและกลุ่มผู้ที่มีความสนใจได้นำเสนอข้อมูล ของตน ซึ่งการใต่สวนสาธารณะที่จัดขึ้นที่ประเทศศรีลังกาใน เดือนธันวาคมที่ผ่านมานี้มีองค์กรพัฒนาเอกชนและองค์กรประชาชนจาก ประเทศอินเดีย เนปาล ปากีสถาน บังคลาเทศ และศรีลังกา เข้าร่วมจำนวนมาก
แม่น้ำโขงเป็นหนึ่งใน 13 ลุ่มน้ำที่คณะกรรมการได้ทำการศึกษาโดยที่เขื่อนปากมูลถูกเลือกเป็น 1 ในเขื่อนหลักของการศึกษา เขื่อนหลักขนาดใหญ่จะได้รับ การศึกษาทบทวนในประเด็นต่างๆดังต่อไปนี้
- การประเมินผลประโยชน์และต้นทุนที่แท้จริงที่ได้เกิดขึ้น ตามเป้าหมายที่โครงการได้วางไว้
- การประเมินค่าต้นทุนและผลประโยชน์ที่ไม่ได้มีการประเมินล่วงหน้ามาก่อน และที่จำเป็นในการ นำมาวิเคราะห์ถึงต้นทุนและผล ประโยชน์ที่แท้จริง
- การกระจายของภาระต้นทุนและผลประโยชน์ ใครได้รับหรือเสียผลประโยชน์
- ในความเป็นจริงแล้วเกณฑ์การตัดสินใจหรือแนวทางการดำเนินงานได้ถูกปฏิบัติตามอย่างเคร่ง ครัดเพียงใด
- การพิจารณาตัดสินใจในการวางแผน การดำเนินงาน และการติดตามผลของแต่ละเขื่อนขนาดใหญ่ และโครงการพัฒนาทั้งลุ่มน้ำ ต่างๆนั้นถูกมีขึ้นอย่างไร ใครคือผู้ที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
- หากพิจารณาตามมาตรฐานการตัดสินใจที่ใช้ในปัจจุบัน โครงการเขื่อนที่สร้างไปแล้วนั้นสมควรที่ จะถูกสร้างขึ้นหรือไม่
- การรื้อถอนเขื่อน และการชดเชยหรือการจ่ายค่าชดเชยย้อนหลังแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อน
ในขณะนี้รายงานการศึกษากรณีเขื่อนปากมูลกำลังจะเสร็จสมบูรณ์ ค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เวปไซท์ของคณะกรรมการเขื่อนโลกที่ www.dams.org
|