แถลงการณ์สมัชชาคนจน
วันที่
๘ มกราคม ๒๕๔๖ ณ. ทำเนียบรัฐบาล
----------------------------------------------------
ตามที่นายกรัฐมนตรี
พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร
ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
หลังจากเดินทางไปดูสภาพพื้นที่และวิถีชีวิตของชาวบ้าน
บริเวณเขื่อนปากมูล
เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๖ โดยเนื้อหาการสัมภาษณ์
พอสรุปได้ว่า
การศึกษาของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ไม่ครอบคลุมเพราะเป็นการศึกษาข้อมูลของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน
ไม่ศึกษาข้อมูลของชาวบ้านกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดประตูระบายน้ำ
จึงได้ส่งคณะทำงานส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี
๔
ชุดเพื่อลงไปเก็บข้อมูลในพื้นที่เพิ่มเติม
แต่ความจริงรายงานผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ก็ระบุไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่มีผู้ได้รับผลกระทบจากการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลตลอดปี
ทั้งด้านการชลประทาน การเลี้ยงปลากระชัง ด้านพลังงานไฟฟ้า
ข้อกล่าวหาของนายกรัฐมนตรีที่ว่าการศึกษาของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเป็นการศึกษาข้อมูลด้านเดียวจึงไม่เป็นความจริง
จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่นายกรัฐมนตรีจะต้องส่งคณะทำงานส่วนตัวลงไปเก็บข้อมูลอีก
พวกเราไม่ทราบได้ว่าคณะทำงานส่วนตัวของนายกฯ
เป็นใคร มีภาระกิจอะไร
จึงได้แต่รอการเปิดเผยจากทางรัฐบาล
จนกระทั่งเมื่อวานนี้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าหัวหน้าคณะทำงานส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี
ก็คือนายอำเภอในพื้นที่นั่นเอง
เมื่อความเป็นจริงปรากฏ
พวกเราจึงรู้ชะตากรรมของตัวเองได้ดี
เพราะที่ผ่านมาพฤติกรรมของนายอำเภอในพื้นที่
เป็นการขัดขวาง
โจมตีให้ร้ายสมัชชาคนจนเสมอมา
และจากวิธีการที่ชาวบ้านในหมู่บ้านส่งข่าวมาให้ทราบก็คือ
นายอำเภอจะสั่งไปที่กำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน
ให้ประกาศหอกระจายข่าวเรียกประชุมชาวบ้าน
และให้ยกมือว่าใครเห็นด้วยกับการเปิดประตูน้ำ
ปิดประตูน้ำ หรือเปิดๆปิดๆ
ซึ่งหากวิธีการนี้ใช้ได้ทำไมนายกรัฐมนตรีต้องอนุมัติงบประมาณ
๑๐.๒
ล้านบาท
ให้มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
มาทำการศึกษาใช้เวลาเป็นปี
สู้มานับมือกันไม่กี่วันก็เสร็จเรียบร้อย
ดังนั้นการที่นายกรัฐมนตรีเลือกเอานายอำเภอในพื้นที่
มาเป็นคณะทำงานส่วนตัว
และใช้วิธีสำรวจความต้องการโดยไม่ดูความเป็นจริงแล้ว
สมัชชาคนจนมีความเห็นว่าคณะทำงานส่วนตัวของนายกฯ
ไม่ใช่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเพื่อการตัดสินใจแก้ปัญหาแต่เป็นการหาข้อมูลรองรับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีที่มีอยู่แต่เดิมแล้ว
สมัชชาคนจนขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี
ทบทวนการดำเนินงานของคณะทำงานดังกล่าวแล้วตัดสินใจเปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูลตลอดปี
ตามข้อเสนอของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
น่าจะเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่สร้างสรรค์กว่าที่เป็นอยู่
ด้วยความเชื่อมั่นในพลังประชาชาชน
สมัชชาคนจน |