|
1.
เติบตนจากลุ่มน้ำ สีปูน
เดินทางสู่แม่มูน หมายมุ่ง
ดื่มด่ำฝันอาดูร ยามจาก
จากเพื่อสร้างฝันฟุ้ง เฟื่องฟ้า พรายตะวัน
หนทางอาจยืดเยื้อ ยาวนาน
วัฏจักรวาล ว่ายฟ้อน
ครรลองฤดูกาล กำหนด
วิถีชีวิตสะท้อน เส้นทาง
2.
นี้ธรรมชาติจัดวาง เลือนเงาเบาบาง
หนักบ้างบางครั้งบางคราว
แม้การเ
ดินทางนานยาว หลากเรื่องหลายราว
ล้วนการดำรงพงศ์พันธุ์
ปลาอีตู๋สาวมุ่งมั่น ท้ายน้ำแห่งนั้น
วางไข่แล้วค่อยกลับคืน
บัดนี้วิถีล้มครืน สายธารถูกกลืน
เขื่อนคั่น-อำนาจเงินตรา
เถื่อนถ้ำ
"กุมภลักษณ์" พา ย่อยยับอัปรา
เกาะแก่งเวียงวังพังภินท์
ลมหายใจสุดท้าย รวยริน
ยังบทโศลกยิน ยามรุ่ง
หวนอาวรณ์ถวิล อดีตฯ
คราโพยมทอรุ้ง เลื่อมพราย
ความทรงจำเก่าพ้น กาลผัน
สายน้ำเน่านานวัน หยุดนิ่ง
ฤดีตะวัน-จันทร์ เจ็บปวด
แลฝันกลับถูกทิ้ง เปลี่ยวทั้งลำธาร
3.
ปลาอีตู๋ตั้งหน้า ตะเกียก ตะกาย
ดื่มด่ำฝันเพริศพราย อิ่มแปล้
ผวาตื่นฝันมลาย ลาจาก
ชีวิตพานพบแพ้ ร่ำน้ำ ตานอง
เสือ
นาลานฯ ณ ลุ่มน้ำ
(จากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ส่วน จุดประกายวรรณกรรม
คอลัมน์
ประกายกวี หน้า 9 วันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2543)
*
กุมภลักษณ์ ถ้ำใต้น้ำอันเป็นแหล่งอาศัยของปลา
*
แม่มูน "มูน" เป็นภาษาอีสานแปลว่ามรดกตกทอด
แม่น้ำมูลมาจากตำนานเก่าแก่เรื่องโยนกนาคพันธุ์
พญานาคที่ขุดก่นแม่น้ำมูล
คือ ทะนะมูนละนาค
ดังนั้น
แม่น้ำมูล น่าจะเป็น แม่น้ำมูน
*
ปลาอีตู๋ = ปลาตะเพียน
|
๑
แม่มูนแม้กริ้วโกรธอันใดแม่เอย
ก่อนกาลอกแม่เคยอบอุ่นโอบเอื้อ
มาบัดนี้ชีพมูลแม่หลงเหลือ
ดั่งซากเรืออัปปางข้างฝั่งมูน
สองข้างทางธารเทียงไหลเลี้ยวลด
อกแม่แสนรัดทดคดเหลืองขุ่น
ลำน้ำธรรมชาติถูกครอบงำด้วยเงินทุน
จึ่งวายวุ่นขุ่นหมองเหมือนใจคน
เกาะแก่งเลี้ยงชีพเพาะพันธุ์สัตว์
บ้างระเบิดบ้างท่วมซัดให้ท่วมท้น
เหลือไว้เพียงเศษซากความทุกข์ทน
อีกความมืดมนหลายชีวิตคน-ปลา
เมื่อสายแห่งลำน้ำมูนนิ่งหยุดไหล
ทุกชีพต่างร่ำร้องไห้ร้องโหยหา
น้ำมูนขุ่นข้นคือผู้คนหลายชีวา
กลั่นออกมาจากน้ำตาและสายเลือด
๒
สร้างเขื่อนคือตำนานซาตานร้าย
คือความตายทำร้ายอย่างดุเดือด
คือตราบาปคนมีอำนาจเขาเฉือดเชือด
คือสายธารชีวิตที่แห้งเหือดของประชาชน
เขื่อนปากมูล
คือ กระจกร้าวบานใหญ่ของการพัฒนา
ศิลป์
ศิวากรณ์
|
|