eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

 

 

 

 

 
      สายน้ำของ ยามน้ำลง

สายัณน์ ข้ามหนึ่ง
  เครือข่ายแม่น้ำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

          ช่วงฤดูกาลน้ำหลากผ่านพ้นไป สายน้ำที่ไหลหลากและรุนแรงได้พัดพาเอาตะกอนดินทราย ความอุดมสมบูรณ์จากต่างที่ต่างแห่งไหลมารวบรวมทับถมก่อเกิดดอนและสันดอนริมตลิ่งน้ำของ ดอนและสันดอนที่เกิดขึ้นเป็นแหล่งรวมแร่ธาตุต่างๆความหลากหลายของปุ๋ยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญต่อคนที่อยู่ริมน้ำของเป็นอย่างยิ่ง

         การทำเกษตรริมน้ำของ ดอน สันดอนที่เกิดขึ้นคือพื้นที่ปลูกผักที่ได้สังสมและ ทำกันมาหลายชั่วอายุคน การทำเกษตรริมของเป็นแหล่งผลิตอาหาร พืชผักหลายชนิดหล่อเลี้ยงคนริมฝั่งน้ำของทั้งสองฝั่งมายาวนาน รวมถึงสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยที่อาศัยความสมบูรณ์ของสายน้ำดำรงชีวิต

          เกษตรริมของจะเริ่มในเดือนตุลาคม คนที่ทำเกษตรริมของจะเริ่มแบ่งปันขอบเขตที่ดินที่จะปลูกผักที่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่เรียกกันว่า ดอนและสันดอนโดยแต่ละคนจะได้พื้นที่ในการปลูกผักครบทุกคน คนที่จะทำการปลูกผักทั้งหมดจะไม่ยึดครองหรือครอบครองดอนและสันดอนเป็นของคนใด คนหนึ่งแต่จะแบ่งให้ได้ครบทุกคนที่จะปลูกผักไม่ว่าพื้นที่นั้นมากน้อยเพียงใด ทุกคนมีสิทธิที่จะครอบครองร่วมกันตามข้อตกลงที่กำหนดขึ้น หากใครมาก่อนก็มีสิทธิเลือกก่อนว่าจะเลือกที่ตรงไหน เลือกได้แล้วจะกำหนดขอบเขตด้วยการขีดเส้น หรือปักหลักให้รู้ว่ามีคนจองไว้แล้วแต่การจับจองทุกครั้ง จะจับจองพื้นที่เท่าที่ตนเองสามรถทำได้ จะไม่จับจองมากเกินไป หากจับจองมากเกินไปคนอื่นที่มาทีหลังจะไม่ได้ที่ดินหรือได้น้อย ทุกคนที่มาทำต้องแบ่งที่ดินที่เกิดขึ้น อย่างเท่าเทียบกันทุกคน การแบ่งพื้นที่อีกอย่างหนึ่งคือดูจากลักษณะพื้นที่เดิมที่ทำเกษตรปีที่แล้วหากดอนและสันดอนเปลี่ยนแปลงหรือสภาพ ใกล้เคียงกับปีที่แล้วก็เอาที่เดิมของตนเองเมื่อปีที่แล้วทุกคนที่เคยทำจะสามารถจำขอบเขตที่ของตนเองได้

          พื้นที่ดอนและสันดอนไม่เพียงแต่จะเป็นที่ปลูกผักได้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเพาะถั่วงอกที่เป็นผลผลิตที่มีชื่อเสียงของอำเภอเชียงของอีกด้วย ด้วยดินที่อุดมสมบูรณ์ส่งผลให้ถั่วงอกของเชียงของเส้นใหญ่ขาวอวบก้านใหญ่เป็นที่ต้องการ ของตลาดและผู้บริโภคเป็นอย่างมากขายได้ราคาดี เป็นรายได้อีกทางหนึ่งของการใช้ประโยชน์จากความสมบูรณ์ของสายน้ำของ

          ต้นเดือนตุลาคม ชาวบ้านบ้านหาดใคร้ สบสม บ้านเวียง จะเริ่มเตรียมแปลงผัก ถางหญ้า ขึ้นแปลง เพาะต้นกล้า ผักที่ปลูกส่วนใหญ่จะเป็น คะน้า ถั่วฝักยาว มะเขือ ผักสลัด เป็นต้น ผักเหล่านี้เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในอำเภอเชียงของและตลาดพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก ด้วยความสด สะอาดและปลอดสารพิษจึงเป็นที่นิยมสูง

          รายได้ที่ได้จากการปลูกผักเป็นรายได้ที่พออยู่พอกิน แต่บางครอบครัวแล้วถือว่าเป็นรายได้หลักของครอบครัวในช่วงฤดูแล้งเลยทีเดียว มีรายได้ต่อวันประมาณวันละ๒๐๐-๓๐๐บาท เพราะการทำเกษตรริมของไม่ได้ลงทุน หรือมีต้นทุนอะไรมากมาย ปลูกเสร็จแล้ว คอยดูแลตักน้ำจากน้ำของขึ้นมารดผักไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำรดรวมถึงเครื่องมืออื่นๆ อาศัยเพียงความขยันที่เป็นนิสัยติดตัวมาและจิตวิญญาณของคนเคยทำเกษตรเข้าสู้เท่านี้ก็ไม่ต้องพึ่งพาเครื่องมือและ สารเคมีแต่อย่างใดแล้ว การดูแลรักษาพืชผักที่ปลูกส่วนใหญ่เป็นพืชที่ชอบอากาศหนาว การดูแลก็ไม่มีอะไรมากมาย คอยรดน้ำ พรวนดิน ถางหญ้า เท่านี้ผักที่ปลูกก็เจริญเติบโต

          การทำเกษตรริมน้ำของจะกินเวลาประมาณ ๓-๔ เดือนในช่วงฤดูหนาวเท่านั้นหลังจากนั้นพืชที่ปลูกก็จะหมดอายุการปลูกลงเองตามธรรมชาติ ส่วนที่เหลือคงจะเหลือแต่เมล็ดพันธุ์ที่แก่จัดเก็บรวบรวมไว้เพื่อเป็นเมล็ดพันธุ์ต่อไปในปีหน้า

          การขายพืชผัก ชาวบ้านที่ทำการเกษตรริมของในเขตเวียงแก้วนั้น จะเอาผักที่ปลูกไปขายเอง ที่ตลาดเช้าซึ่งเป็นตลาดขายส่งสินค้าของอำเภอเชียงของ ผักที่นำไปขายได้รับความนิยมมาก สด สะอาด ปลอดสาร วางขายไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็หมด ไม่ต้องรอให้ตลาดวาย บางคนมีรายได้ต่อปีเป็นหลักหมื่นเป็นรายได้ที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเองและบวกกับ ความอุดมสมบูรณ์จากธรรมชาติริมน้ำของ

          หากกล่าวถึงการเกิดดอนและสันดอนที่เกิดขึ้นหลังน้ำลด เป็นทั้งแหล่งเพาะปลูกแล้ว ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือเป็นสนามเด็กเล่นของเด็กริมน้ำของได้เป็นอย่างดี การที่พ่อแม่ลงไปรดน้ำแปลงผัก เด็กๆลูกหลานยังได้ลงไปเล่นน้ำ เด็กหญิงเด็กชายได้ติดตามพ่อแม่ลงมาเล่นร่วมกันหลังจากที่กลับมาจากโรงเรียน ดอนและสันดอนยังเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตของคนรุ่นเด็กอีกด้วย เด็กบางกลุ่มจับกลุ่มกันเล่นก่อปราสาททรายตามจินตนาการแบบเด็กๆ เด็กผู้ชายที่ตัวโตหน่อยก็จับกลุ่มกันเตะบอลโดยใช้สนามที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สนามบอลที่สะอาดและกว้างใหญ่เตะบอลอย่างสนุกสนาน เด็กบางคนอยากลงเล่นน้ำก็โดดลงไปเล่นได้ตามสบาย อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่พ่อแม่ไม่ต้องกลัวว่าจะจมน้ำหรือหายไปกับสายน้ำเพราะมีคนคอยเฝ้ามองดูแล

          วิถีการละเล่นการเรียนรู้ เรียนรู้จากประสบการณ์จริงเป็นการละเล่นที่เรียบง่ายแต่สนุกสนาน การเล่นอย่างนี้มีให้เห็นอย่างไม่ขาดหาย เด็กน้อยชายหญิงได้เล่นริมน้ำของอย่างสุขใจ ไม่ต้องมานั่งรอดูรายการทีวี โทรทัศน์ การ์ตูน เหมือนอย่างเด็กในปัจจุบัน แต่เป็นการเรียนรู้การดำรงชีวิตอยู่อย่างลูกน้ำของโดยแท้จริง นี้คือภาพของความสุขของคนลุ่มน้ำของที่อาศัยแม่น้ำและที่ดินริมน้ำ

          นี้เป็นคำกล่าวของคนวัยกลางคนที่คิดถึงภาพเก่าๆที่เกิดขึ้นกับตนเองและเพื่อนรุ่นเดียวกัน ภาพเหล่านี้คงเป็นความทรงจำไปแล้ว หากเทียบกับเด็กในปัจจุบัน

          กลับมามองภาพปัจจุบันที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ที่ดินทำเกษตรลดลง สิ่งปลูกสร้างอาคารริมน้ำมากขึ้น จะมองไปทางใดจะมองซ้ายหรือมองขวา ตามริมน้ำของ เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้าง อาคารสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ได้ยกคำกล่าวอ้างว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง ที่ดินปลูกผักลดลงเหลือเพียงน้อยนิด สิ่งที่มาแทนที่ คือ ดิน หิน ทราย สิ่งปลูกสร้างทั้งหลายที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการพังทลายของตลิ่ง โรงแรม ร้านอาหาร จะมองหาที่ดินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แปลงปลูกผักหาได้มีเหมือนเดิมเหมือนเก่าก่อนที่มีมา

          และ ๒-๓ ปีที่ผ่านมา หลังจากเริ่มโครงการระเบิดแก่งน้ำโขง เพื่อการเดินเรือพาณิชย์ ประกอบกับโครงการเขื่อนน้ำโขงที่สร้างเสร็จแล้ว ๒ แห่งทางตอนบนในจีน ยังไม่รวมอีกหลายแห่งที่กำลังก่อสร้าง ชาวบ้านพบว่า ระดับน้ำขึ้นลงไม่เป็นปกติ มิใช่เพียงแต่น้ำแล้งเท่านั้น แต่ระดับน้ำในน้ำโขงขึ้น-ลง อย่างรวดเร็วผิดธรรมชาติ ทำให้ตลิ่งพังทลายมากขึ้น สันดอนที่เกิดขึ้นกลางน้ำหายไป ที่ดินริมน้ำบ้านเวียง บ้านหาดใคร้ สบสม หายไปหมดแล้ว ที่ดินดอนทรายที่มีอยู่ก็ไม่รู้ว่าจะหายไปเมื่อใด ต่อไปนี้คงไม่มีที่ปลูกผักกันอีกแล้ว บรรยากาศแปลงปลูกผักริมของ เด็กน้อยหญิงชายวิ่งเล่นบนหาดทรายสันดอนคงหมดลงไปด้วย หรือว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของเมืองเชียงของและแม่น้ำโขงแทนบรรยากาศเก่าๆเสียแล้ว

         แล้วคนที่ทำเกษตรริมของจะอยู่อย่างไร

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา