แถลงการณ์ เครือข่ายพลเมืองปกป้องแผ่นดินถิ่นเกิดภาคอีสาน
เพื่อการปกป้อง ดิน น้ำ ปลา ป่า แร่
“หยุดการสร้างเขื่อนไซยะบุรี เร่งศึกษาผลกระทบ”
ตามที่พวกเราชาวบ้านภายใต้เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน (คสข.) อันประกอบไปด้วย จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ได้ร่วมกับโครงการฟื้นฟูนิเวศน์ในภูมิภาคแม่น้ำโขง ทำการศึกษา “ผลกระทบต่อเศรษฐกิจชุมชนลุ่มน้ำโขงจากการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” เนื่องจากพวกเราได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจากผลกระทบของการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในประเทศจีน และมองเห็นอย่างชัดเจนว่าหากมีการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงทางตอนล่างโดยเฉพาะเขื่อนไซยะบุรีจะยิ่งส่งผลกระทบหลายเท่านัก ที่สำคัญไปกว่านั้นการศึกษาผลกระทบของเขื่อนไซยะบุรีก็จัดทำขึ้นอย่างรีบเร่งไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ และที่สำคัญคือไม่มีความถูกต้องชัดเจน ขาดการศึกษาผลกระทบข้ามพรมแดนที่จะเกิดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้านร่วมสายน้ำทั้งหลาย
เขื่อนไซยะบุรีกั้นแม่น้ำโขงที่แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว เหนือขึ้นไปจาก อ.เชียงคาน จ.เลย เพียงประมาณ 200 กิโลเมตร ตัวเขื่อนมีความยาว 810 เมตร มูลค่าการลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท
ที่ผ่านมา 4 เขื่อนจีนที่กั้นแม่น้ำโขงแม้จะอยู่ไกลกว่าเขื่อนไซยะบุรี แต่ได้สร้างผลกระทบต่อคนลุ่มน้ำโขงตอนล่างอย่างชัดเจน ถ้าสร้างเขื่อนไซยะบุรีสำเร็จจะเกิดผลกระทบกับพี่น้องชาวลาว กัมพูชา เวียดนาม และที่สำคัญคือประเทศไทยทั้ง 8 จังหวัดดังกล่าวรวมถึงคนริมฝั่งแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง ผลกระทบสำคัญที่จะเกิดขึ้นคือ การปิดกั้นเส้นทางอพยพของปลาโดยเฉพาะปลาบึก การทำลายระบบนิเวศทั้งระบบของแม่น้ำโขง การสูญเสียพื้นที่เกษตรกรรมริมฝั่งโขง ผลกระทบทางเศรษกิจ สังคม วัฒนธรรม ฯลฯ อันเป็นการทำลายวิถีชีวิตของคนริมฝั่งโขงโดยตรง
ในวันที่ 26-27 เมษายน พ.ศ. 2555 ทางเครือข่ายฯ ได้จัดประชุมรายงานผลการวิจัยครั้งนี้ขึ้นที่อำเภอพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม การศึกษาครั้งนี้จัดทำขึ้นในพื้นที่ 8 ตำบลใน 7 จังหวัดลุ่มน้ำโขงภาคอีสาน รวมทั้งหมด 8 หัวข้อคือ 1) การเกษตรริมฝั่งโขง 2) ปัญหาตลิ่งพัง 3) นาข้าวที่ใช้น้ำจากแม่น้ำโขง 4) การประมง 5) การเพาะพันธุ์ปลา 6) การเลี้ยงปลากระชัง 7) การท่องเที่ยว และ 8) การค้าชายแดน
ผลการวิจัยได้สรุปอย่างชัดเจนว่าเขื่อนในแม่น้ำโขงจะสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจชุมชนลุ่มน้ำโขงอย่างร้ายแรง รวมไปถึงผลกระทบด้านอื่นๆอีกจำนวนมาก การสร้างเขื่อนจะทำลายแหล่งความมั่นคงทางอาหารหลักของโลก มูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะเสียหายจากผลกระทบของการสร้างเขื่อนนั้นมีมากกว่ามูลค่าของการสร้างเขื่อน อารยะธรรมลุ่มน้ำโขงจะสูญเสียไปอย่างเรียกร้องกลับคืนมาไม่ได้
จากการวิจัยที่ชาวบ้านจำเป็นต้องลุกขึ้นมาทำเองเพราะไม่สามารถที่จะหวังพึ่งพาภาครัฐและนักวิชาการได้ ซึ่งการศึกษาครั้งนี้ทำขึ้นในพื้นที่เพียงส่วนหนึ่งของพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงตลอดลำน้ำโขงทั่ง 4 ประเทศ มันทำให้พวกเราสรุปตรงกันอย่างชัดเจนว่าเขื่อนไซยะบุรีจะสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงและรอบด้าน ดังนั้น เครือข่ายพลเมืองปกป้องแผ่นดินถิ่นเกิดภาคอีสาน เพื่อการปกป้อง ดิน น้ำ ปลา ป่า แร่ อันประกอบด้วยองค์กรที่ลงนามข้างท้ายนี้ จึงขอเรียกร้องให้
1 หยุดโครงการเขื่อนไซยะบุรีทันที พร้อมทั้งระงับการก่อสร้างในพื้นที่ จนกว่าการศึกษาผลกระทบข้ามพรมแดนจะแล้วเสร็จ มีการเผยแพร่ และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างรอบด้าน
2 เร่งดำเนินการศึกษาผลกระทบข้ามพรมแดนอย่างรอบด้าน โดยผ่านการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมทั้ง 4 ประเทศ
3 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระงับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากเขื่อนไซยะบุรี เนื่องจากโครงการยังไม่ได้รับฉันทามติจากประเทศสมาชิก MRC ทั้ง 4 ประเทศ
4 ธนาคารกรุงไทย กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ และกรุงเทพ ระงับและยกเลิกการปล่อยเงินกู้เพื่อการสร้างเขื่อนไซยะบุรี เพื่อหยุดสนับสนุนการลงทุนที่ฉวยโอกาสจากประเทศเพื่อนบ้าน
เครือข่ายพลเมืองปกป้องแผ่นดินถิ่นเกิดภาคอีสาน เพื่อการปกป้อง ดิน น้ำ ปลา ป่า แร่
วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555
ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.พระธาตุพนม จ.นครพนม
- เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง 8 จังหวัดภาคอีสาน (คสข.)
- เครือข่ายประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง
- เครือข่ายเหมืองแร่ จังหวัดเลย
- เครือข่ายปกป้องแผ่นดินถิ่นเกิดภาคอีสาน
- กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดอุมุง ต.บุฮม อ.เชียงคาน จ.เลย
- กลุ่มคนรักษ์บ้าน ต.นาดินดำ อ.เมือง จ.เลย
- เครือข่ายอนุรักษ์ป่าภูผายา จ.หนองบัวลำภู
- กลุ่มคนรักษ์เขาเหล่าใหญ่-ผาจันได จ.หนองบัวลำภู
- โครงการฟื้นฟูนิเวศน์ในภูมิภาคแม่น้ำโขง
|