ใบแจ้งข่าว
เครือข่ายแม่น้ำเอเซียตะวันออกเฉียงใต้/สมัชชาคนจน

fas fa-pencil-alt
สมัชชาคนจน
fas fa-calendar
21 มีนาคม 2543

เครือข่ายแม่น้ำเอเซียตะวันออกเฉียงใต้/สมัชชาคนจน

สมัชชาคนจน หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน 2,3 ส่งท้ายกิจกรรมหยุดเขื่อนโลกปี 43 ยิ่งใหญ่ที่เขื่อนราษีไศล ร่วมประกาศ ปลดปล่อยแม่น้ำสู่อิสรภาพ เขื่อนไร้ประโยชน์ ต้องให้แม่น้ำเป็นอิสระเท่านั้น ย้ำชัดเจนนี่ถือเป็นภารกิจที่จะต้องดำเนินการ ต่อให้เสร็จสิ้น

ราษีไศล ศรีษะเกษ - วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2543 สมัชชาคนจน หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน 2,3 อ่างเก็บน้ำราษีไศล และ เครือข่ายแม่น้ำเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมจัดกิจกรรมวันหยุดเขื่อนโลก ที่สันเขื่อนราษีไศล จ.ศรีษะเกษ หลังจากการเดิน ขบวนรณรงค์ของชาวบ้านแม่มูนมั่นยืน 2,3 อ่างเก็บราษีไศล ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเขื่อนราษีไศล จำนวนกว่า 800 คน เพื่อเผยแพร่ ปัญหาดินเค็ม ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมเป็นต้นมา โดยได้เดินทางจากอ่างเก็บน้ำราษีไศล มุ่งสู่จังหวัด ศรีษะเกษ และเดินทางวกกลับมายังสันเขื่อนราษีไศลอีกเส้นทางหนึ่ง เป็นระยะทางกว่า 85 กม. ในเวลา 15 วัน ในวันที่ 21 มีนาคม จึงได้จัดกิจกรรม ขึ้นที่สันเขื่อน เนื่องในวันหยุดเขื่อนโลก วันที่ 14 มีนาคม ของปี 2543 โดยในช่วงเช้าหลังจาก เคลื่อนขบวนออกจาก  อ.อุทุมพรพิสัย  จ. ศรีษะเกษ เดิน ทางมาถึงสันเขื่อนเมื่อเวลา 10 .00 น. กลุ่มผู้เดินขบวนได้ตั้งแถว กันที่สันเขื่อน เพื่อร่วมประกาศเจตนารมณ์ ปลดปล่อยแม่น้ำสู่อิสรภาพ หลังจากนั้นจึงได้ทิ้งผืนผ้าขนาดใหญ่ลงมายังตัวเ ขื่อนข้อ ความว่า ฟรีเดอะริเวอร์ (FREE THE RIVER )ปลดปล่อยแม่น้ำสู่อิสรภาพ และชาวบ้านกว่า 800 คนได้ร่วมอ่านคำ ประกาศฉบับที่ 5 ปลดปล่อยแม่น้ำสู่อิสรภาพ ซึ่งมีเนื้อความว่า“นับตั้งแต่มีการสร้างเขื่อนขึ้นมา คำสัญญาที่นักสร้างเขื่อน ให้กับประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบคือ ผู้เสียสละจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่า แต่แท้ที่จริงแล้ว นั่นเป็นคำหลอกลวง เพราะตั้งแต่มี เขื่อนขึ้นมา ไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆแก่มนุษย์ การสร้างเขื่อนขวางกั้นลำน้ำไว้กลับเป็นพันธนาการของแม่น้ำที่สร้างความ สูญเสียให้อย่างมากมาย เขื่อนราษีไศลก็เช่นเดียวกัน นอกจากจะเป็นการทำลายธรรมชาติและวิถีชีวิตของมนุษย์แล้ว ในปัจจุบันยังปรากฏว่าได้ก่อหายนะตัวใหม่ คือการแพร่ปัญหาดินเค็ม

การเดินรณรงค์ของชาวหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน ตลอด 15 วันที่ผ่านมา รับรู้ดีว่า เขื่อนราษีไศลเป็นต้นตอแห่งหายนะ ภัยนี้ และสร้างปัญหาอีกมากมาย ดังนั้น จึงมีความเห็นว่า การปลดปล่อยแม่น้ำนี้จากเขื่อนราษีไศล คือวิธีการที่ดีที่สุดในการ แก้ไขปัญหา ดังนั้นนี่จึงเป็นภารกิจที่จะดำเนินต่อไปให้เสร็จสิ้น เพื่อปลดปล่อยแม่น้ำเป็นอิสระ”หลังจากนั้นจึงได้ปฏิญาน ตนร่วมกันเพื่อดำเนินภารกิจนี้ต่อไปนายไพรจิตร ศิลารักษ์ ตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนจากเขื่อนราษีไศลกล่าวว่า การจัดกิจกรรมขึ้นในครั้งนี้ก็เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่จะปกป้องแม่น้ำมูลนี้เอาไว้ และจะร่วมกันดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อรักษา ให้แม่น้ำนี้กลับคืนสู่สภาพเดิมให้ได้

“เพราะเรารู้ดีว่าไม่มีวิธีการไหนที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้นอกจากการปลดปล่อยให้แม่น้ำมูลเป็นอิสะรวมทั้งแม่น้ำ อื่นๆ ด้วยที่เขื่อนได้ก่อให้เกิดปัญหาขึ้นมากมาย ซึ่งเราถือว่านี่เป็นภารกิจของพวกเราที่จะปกป้องรักษาเอาไว้เพื่อลูกเพื่อ หลานต่อไป เราคือผู้เสียสละที่รู้ดีว่าเขื่อนไม่เคยก่อประโยชน์ใดๆเลย สร้างปัญหาทับถมมากขึ้นเรื่อยๆนี่เป็นวิถีทางเดียวที่ จะแก้ไขได้”นายไพรจิตกล่าวต่อไปว่า หลังจากเสร็จกิจกรรมในครั้งนี้ทางกลุ่มจะเข้าพักที่หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน 2,3 อ่างเก็บ น้ำเขื่อนราษีไศล หลังจากนั้นจะดำเนินกิจกรรมรณรงค์เพื่อให้เห็นถึงหายนะของเขื่อนราษีไศลและโครงการผันน้ำ โขง-ชี-มูลต่อไป

 


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง