จดหมายเปิดผนึก ขอให้จับตาการล้างผลาญงบประมาณแผ่นดิน โดยการผลักดันให้สร้าง เขื่อนแก่งเสือเต้น เครือข่ายพิทักษ์แม่น้ำยม สคจ.

fas fa-pencil-alt
ข่าวสด
fas fa-calendar
1 มิถุนายน 2547

เรื่อง ขอให้จับตาการล้างผลาญงบประมาณแผ่นดิน โดยการผลักดันให้สร้าง เขื่อนแก่งเสือเต้น 


 เรียน พี่น้องประชาชนผู้รักความเป็นธรรมทุกท่าน 


 สิ่งที่ส่งมาด้วย : 1. ทางออก ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ลุ่มน้ำยม โดยไม่ต้องสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น  2. เหตุผล 12 ประการที่ไม่ควรสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น 


 จากสถานการณ์ภัยน้ำท่วมกว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศ ในขณะนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า มีพรรคการเมืองบางพรรค โดยเฉพาะพรรคชาติไทย ที่หัวหน้าพรรค ออกมาล้วงลูก สั่งรัฐมนตรีในสังกัดเร่งรัดผลักดันโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น จังหวัดแพร่ โดยมีอธิบดีกรมชลประทานสนับสนุนอย่างเข้มแข็ง ซึ่งโครงการแก่งเสือเต้นเขื่อนเดียว ต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้าน (หนึ่งหมื่นสองพันล้านบาท) ทั้งที่อุทกภัยได้เกิดขึ้นทั่วประเทศ


 ทั้งที่ การศึกษาของ FAO. ได้มีข้อสรุปออกมาแล้วว่า เขื่อนแก่งเสือเต้น สามารถป้องกันน้ำท่วมได้เพียง 8 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น แต่ พรรคการเมือง นักการเมือง รัฐมนตรี บางคน กลับหลับหูหลับตา ไม่ยอมรับรู้ข้อมูล ข้อเท็จจริง กลับจกฉวยสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อเร่งรัดโครงการเพื่อผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง

อีกทั้งผลการศึกษา การวิจัยของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ออกมา ก็มีความชัดเจนแล้วว่าไม่สมควรสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น อาทิ

1. จากการศึกษาของ องค์การอนามัยโลก (FAO.) ด้วยเหตุผลเรื่องการป้องกันน้ำท่วม กรณีเขื่อนแก่งเสือเต้น สามารถ เยียวยาปัญหาน้ำท่วมได้ เพียง 8 เปอร์เซ็นต์ 

2. จากการศึกษาของ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนา ประเทศไทย (TDRI.) ด้วยเหตุผลทาง เศรษฐศาสตร์ ได้ข้อสรุปว่า เขื่อนแก่งเสือเต้นไม่คุ้มทุน 

3. จากการศึกษาของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ด้วยเหตุผลทางนิเวศวิทยา ที่มีข้อสรุปว่าหากสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นจะกระทบต่อระบบนิเวศน์ของอุทยานแห่งชาติแม่ยมเป็นอย่างมาก หากเก็บผืนป่าที่จะถูกน้ำท่วมไว้จะมีมูลค่าต่อระบบนิเวศน์ และชุมชนอย่างมาก 

4. จากการศึกษาของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเหตุผลทางด้าน ป่าไม้ สัตว์ป่า ที่มีข้อสรุปว่า พื้นที่ที่จะสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น เป็นทั้งอุทยานแห่งชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่ อีกทั้งยังเป็นแหล่งป่าสักทองธรรมชาติ ผืนเดียวที่เหลืออยู่ ดังนั้น ควรเก็บรักษาไว้ เพื่ออนาคตของประชาชนไทย และมวลมนุษยชาติ 5. จากการศึกษาของมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า และพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ด้วยเหตุผลในการจัดการน้ำ ยังมีทางออก และทางเลือกอื่น ๆ อีกหลายวิธีการ ที่แก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ โดยไม่ต้องสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น

เครือข่ายพิทักษ์แม่น้ำยม สมัชชาคนจน ขอประณามการฉ้อฉล ฉกฉวย สถานการณ์น้ำท่วม มาผลักดันโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น เพื่อผลประโยชน์ของตน และพวกพ้อง ทั้งที่ข้อมูล เหตุผล ล้วนเป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่สมควรสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น

ทั้งนี้ เครือข่ายพิทักษ์แม่น้ำยม สมัชชาคนจน ใคร่ขอเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมลุ่มน้ำยม โดยไม่ต้องสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น โดยย่อ ดังนี้ 

1. การจัดการโดยใช้แนวทางทางภูมินิเวศวิทยา การจัดการน้ำแบบใหม่ และการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมองภาพรวมการแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำทั้งระบบ 

2. การฟื้นฟูป่าต้นน้ำ การฟื้นฟูป่าไม้ การอนุรักษ์ป่า การปลูกป่าเสริม การปกป้อง พิทักษ์ รักษา และการจัดการป่า โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม (การประกาศป่าชุมชน ป่าอนุรักษ์ ปลูกป่า ฯลฯ) นับเป็นแนวทางหนึ่งที่จะฟื้นฟูเสถียรภาพของระบบนิเวศน์ ให้กลับคืนมาสู่สมดุล อย่างยั่งยืน 

3. การขุดลอกตะกอนแม่น้ำ อันจะสามารถฟื้นฟูแม่น้ำให้กลับมาทำหน้าที่แม่น้ำตามธรรมชาติได้ การทำทางเบี่ยงน้ำเพื่อระบายออกนอกเขตชุมชน การสร้างเครือข่ายทางน้ำเพื่อกระจายน้ำไปยังนอกเขตชุมชน ฯลฯ 

4. การฟื้นฟูที่ราบลุ่มแม่น้ำยม สามารถทำได้โดย ขุดลอกคูคลองที่เชื่อมระหว่างแม่น้ำกับหนองบึง การยกถนนให้สูงขึ้น หรือเจาะถนนไม่ให้กีดขวางทางน้ำ การสร้างบ้านเรือนให้อย่างน้อยชั้นล่างสุดต้องสูงกว่าระดับน้ำท่วมสูงสุด การแนะนำให้เกษตรกรการปลูกพืชอายุสั้น พันธุ์พืชที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ การกำหนดให้เป็นเขตเสี่ยงภัยจากน้ำท่วม การหยุดยั้งการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ขวางทางน้ำในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำยม การใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้เหมาะสม เช่น เป็นที่ท่องเที่ยว เป็นแหล่งประมง เขตอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ สิ่งเหล่านี้นอกจากจะสอดคล้องกับระบบนิเวศน์ ยังสามารถป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ทางตอนล่างลงมาตลอดจนถึงกรุงเทพฯ ได้ เนื่องจากที่ราบลุ่มแม่น้ำยมเป็นที่พักน้ำ ที่สามารถพักน้ำไม่ให้ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมกันถึง 500-1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร (ซึ่งมากกว่าแก่งเสือเต้นเสียอีก) 

5. การจัดการทางด้านความต้องการ ในปัจจุบันลุ่มแม่น้ำยมมีระบบชลประทานขนาดใหญ่ และขนาดกลาง 24 แห่ง ระบบชลประทานขนาดเล็ก 220 แห่ง บ่อน้ำตื้น 240 บ่อ และระบบสูบน้ำด้วยพลังไฟฟ้าของกรมพัฒนา และส่งเสริมพลังงาน 26 แห่ง รวมพื้นที่ชลประทาน 1,117,465 ไร่ ระบบชลประทานเหล่านี้ล้วนแต่มีประสิทธิภาพต่ำ กล่าวคือ ประสิทธิภาพเฉลี่ยระบบชลประทานของกรมชลประทานมีเพียง 35% ส่วนระบบสูบน้ำด้วยพลังไฟฟ้ามีประสิทธิภาพเฉลี่ย 57% ขณะที่ประสิทธิภาพระบบชลประทานทั่วโลกเฉลี่ย 64% การจัดการด้วย DSM โดยการซ่อมบำรุงระบบชลประทานที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพ การสนับสนุนให้เกิดกลุ่มผู้ใช้น้ำ การให้ความรู้แก่ผู้ใช้น้ำจะสามารถทำให้เหลือน้ำจำนวนมาก เฉพาะระบบของกรมชลประทานถ้าใช้ระบบ DSM จะเหลือน้ำถึง 101 ล้านลูกบาศก์เมตร เทียบเท่ากับปริมาณในการอุปโภคบริโภคของคนในลุ่มแม่น้ำยมถึง 7.6 ล้านคน 

6. การพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก ในการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในลุ่มแม่น้ำยมสามารถดำเนินการได้โดยการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กตาม ที่มีรายละเอียดในแผนการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก ซึ่งจัดทำโดย กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยแผนดังกล่าวสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำได้โดยใช้งบประมาณเฉลี่ยแล้วหมู่บ้านละประมาณ 3 ล้านบาทเท่านั้น 

7. การพัฒนาระบบประปา การขาดแคลนน้ำในเมืองใหญ่ ๆ โดยเฉพาะในฤดูแล้งที่ความต้องการน้ำมีสูง ไม่ได้เกิดจาก การขาดน้ำดิบเท่านั้น แต่เกิดจากระบบการผลิตน้ำประปาของการประปาภูมิภาคไม่เพียงพอ ตัวอย่างเช่น เมืองสุโขทัยขาดแคลนน้ำประปาในฤดูแล้ง เพราะระบบการผลิตน้ำประปามีความสามารถในการผลิตน้ำประปาเพียง 60 % ของความต้องการน้ำประปาสูงสุดในฤดูแล้ง การขยายระบบการผลิตน้ำประปาจะสามารถช่วยในการขาดแคลนน้ำอุปโภค–บริโภค ในเมืองใหญ่ได้อย่างไรก็ตามการรณรงค์ให้มีการประหยัดน้ำในฤดูแล้งก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น

ท้ายนี้ เครือข่ายพิทักษ์แม่น้ำยม สมัชชาคนจน ขอให้พี่น้องประชาชนผู้รักความเป็นธรรมทุกท่าน ร่วมกันติดตาม ตรวจสอบ พฤติกรรม ฉ้อฉล และ ฉกฉวยสถานการณ์ ของ พรรคการเมือง นักการเมือง ข้าราชการบางคน ที่เร่งรัด ผลักดันเขื่อนแก่งเสือเต้น ทั้งที่เขื่อนแก่งเสือเต้น ไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้

 ขอแสดงความนับถือ เครือข่ายพิทักษ์แม่น้ำยม สมัชชาคนจน
หยุด ทำลายป่า หยุด ทำลายชุมชน หยุด อ้างเพื่อประชาชน หยุด ผลาญเงินประเทศชาติ หยุดหากินกับโครงการขนาดใหญ่ หยุด เขื่อนแก่งเสือเต้น
   

อ้างอิง   http://thai.to/yomriver หรือ http://www.thai.to/yomriver/kst12.htm

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง