จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีและคณะฯ
จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีและคณะฯ
วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ.2556
เรื่อง ขอให้ยกเลิกหรือเพิกถอนการประมูลโครงการน้ำของ 4 กลุ่มบริษัทร่วมค้าต่าง ๆ ทั้ง 9 โมดูล (Module) เสีย
เรียน 1)นายกรัฐมนตรี
2)คณะรัฐมนตรี
3)คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.)
4)คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.)
ตาม ที่ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 1025/2556 เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2556 โดยได้พิพากษาให้ นายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ กยน. คณะกรรมการ กนอช. และคณะกรรมการ กบอ. หรือผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ ปฏิบัติหน้าที่ตามที่มาตรา 57 วรรคสอง และมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กำหนดให้ต้องปฏิบัติ ด้วยการนำแผนแม่บทสำหรับการบริหารจัดการน้ำไปดำเนินการจัดให้มีกระบวนการรับ ฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึง ตามเจตนารมณ์ของส่วนที่ 10 สิทธิในข้อมูลข่าวสารและการร้องเรียน และดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดให้มีการศึกษา และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความ คิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย ตามเจตนารมณ์ของส่วนที่ 12 สิทธิชุมชน ซึ่งอยู่ในหมวด 3 สิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทยของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้ ก่อนที่จะดำเนินการจ้างออกแบบและก่อสร้างในแต่ละแผนงาน (Module) ความดังทราบแล้วนั้น
เนื่อง จากกระบวนการและเจตนารมณ์ของการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามที่กฎหมาย กำหนดนั้น ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ของ รัฐในการปฏิบัติราชการทางปกครองอันมีผลหรืออาจมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพ ของตนได้ด้วย (ส่วนที่ 10 มาตรา 58) ดังนั้น เมื่อรัฐบาลนำแผนแม่บทสำหรับการบริหารจัดการน้ำไปดำเนินการจัดให้มีกระบวน การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึงแล้ว เชื่อว่าแผนงานโครงการต่าง ๆ ที่คณะกรรมการ กยน. กนอช. หรือ กบอ. ได้กำหนดไว้แต่เดิม หรือตามทีโออาร์ (TOR) นั้น จะต้องเปลี่ยนแปลงไป โครงการฯอาจมากขึ้นหรือถูกปรับลดให้น้อยลงกว่าเดิมก็เป็นได้
ดัง นั้นการที่รัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบกลุ่มบริษัททั้ง 4 บริษัทหรือกิจการร่วมค้าที่เป็นผู้ชนะเลิศในการเปิดประมูลประกวดซองราคากัน เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2556 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2556 แล้วนั้น ถือได้ว่าเป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 ในหมวดที่ 10 และหมวดที่ 12 โดยชัดแจ้ง ตามที่ศาลปกครองได้มีคำพิพากษาดังกล่าวแล้ว
เพื่อ ไม่ให้รัฐบาลมีภาระผู้พันและเกิดความเสียหายต่อภาระหนี้สินของประเทศ อันอาจก่อนิติสัมพันธ์ในทางปกครองกับกลุ่มบริษัททั้ง 4 บริษัทหรือกิจการร่วมค้าที่เป็นผู้ชนะเลิศในการเปิดประมูลประกวดซองราคาดัง กล่าวทั้งในและต่างประเทศ และเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียได้มีส่วนร่วมในกระบวนการ พิจารณาของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการปฏิบัติราชการทางปกครองเกี่ยวกับการกำหนด หรือปรับปรุงแก้ไขแผนแม่บทสำหรับการบริหารจัดการน้ำได้อย่างเต็มที่ตาม เจตนารมณ์ของกฎหมาย สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน จึงใคร่ขอกราบเรียนมายัง ฯพณฯนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.) และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้โปรดสั่งยกเลิกหรือ เพิกถอนการประมูลหรือประกวดราคาโครงการระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่าง ยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยทั้ง 9 โมดูลดังกล่าวเสีย ณ บัดนี้ ด้วยเหตุผลดังได้กล่าวแล้ว และเมื่อรัฐบาลได้ดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาในหมวดที่ 10 และหมวดที่ 12 โดยเฉพาะมาตรา 57 วรรคสอง และมาตรา 67 วรรคสองครบถ้วนแล้ว กลุ่มบริษัททั้ง 4 บริษัทหรือกิจการร่วมค้าดังกล่าว และหรือกลุ่มบริษัทอื่น ๆ ที่สนใจ ก็สามารถที่จะเข้ามาเสนองานประกวดราคาได้อีกในอนาคต ตามเงื่อนไขใหม่ที่รัฐบาลกำหนด หากไม่ดำเนินการรัฐบาลและหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าข่ายการละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่ในทางมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบความผิดเกี่ยวกับ พรบ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ(กฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการฮั้ว) พ.ศ. 2542 โดยทันที และอาจถูกบริษัทต่าง ๆ ที่เคยเป็นผู้ร่วมเสนอกรอบแนวคิด (Conceptual Plan)กว่า 300 บริษัทฟ้องร้องเอาได้ และหรือสมาคมฯจะยื่นศาลปกครองฟ้องร้องเพิกถอนโดยทันที่ที่ฝ่าฝืน ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลในอนาคต
จึงเรียนมาเพื่อทราบ และประกาศมาให้สาธารณชนได้รับทราบโดยทั่วกัน
ขอแสดงความนับถือ
นายศรีสุวรรณ จรรยา
นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน