แฉจีนปล่อยน้ำแม่โขงท่วมเหนือ-อีสาน: หนองคาย เชียงราย ยังจมหนัก
เครือข่ายลุ่มน้ำโขง-ล้านนาแฉต้นตอท่วมหนัก เหตุจีนปล่อยน้ำจากเขื่อนในเมืองเชียงรุ้ง สิบสองปันนา จากสถิติชี้แม่น้ำโขงไม่เคยทำท่วม มีแต่ลำน้ำสาขา อีกเหตุระเบิดแก่งในแม่น้ำขยายเส้นทางเดินเรือขนสินค้า ที่หนองคายยังวิกฤต อ.ศรีเชียงใหม่ ถูกตัดขาด มีตายแล้ว 1 ด.ช. 9 ขวบ
มท.โกวิท บินตรวจเชียงราย น้ำเริ่มลด ที่เลยท่วมเชียงคาน-ปากชม
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.หนองคาย ถึงถานการณ์น้ำท่วมหนักว่า ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงอยู่ที่ 13.58 เมตร เป็นระดับน้ำสูงที่สุดในรอบ 42 ปี สูงกว่าที่ตลิ่งแม่น้ำโขงจะรับได้ถึง 38 เซนติเมตร น้ำโขงไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนอย่างรวดเร็วตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้เป็นวันที่ 5 แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมแล้วกว่าหมื่นไร่ นาข้าว สวนผัก สวนผลไม้ และพืชไร่ เสียหายอย่างหนัก ในพื้นที่ อ.เมือง อ.ท่าบ่อ อ.ศรีเชียงใหม่ อ.สังคม อ.โพนพิสัย อ.ปากคาด อ.รัตนวาปี อ.โซ่พิสัย และ อ.ศรีวิไล โรงเรียนกว่า 20 แห่งต้องหยุดเรียน เนื่องจากถูกน้ำท่วมหนัก และเกรงว่านักเรียนจะได้รับอันตรายจากน้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยเฉพาะสถานการณ์ที่ อ.ท่าบ่อ ถูกน้ำท่วมหนักที่สุด ในชุมชนดอนเขียว ชุมชนท่าโคกเรือ ชุมชนแก้วพิจิตร อยู่ในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ระดับน้ำโขงสูงจนเกือบจะถึงถนน จากการสำรวจพบบ้านเรือน 6 หมู่บ้าน ต.กองนาง และเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ประมาณ 1,000 ครัวเรือน ถูกน้ำท่วม ต้องอพยพไปอยู่ริมถนนและที่สูง ขณะที่ชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งถือโอกาสหาปลาตามริมถนน อีกทั้งตลอดระยะทาง 15 กิโลเมตร จาก อ.ท่าบ่อ ถึง อ.ศรีเชียงใหม่ บ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำโขงตลอดแนวหลายหมู่บ้านถูกน้ำท่วม ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ที่ อ.ศรีเชียงใหม่ ระดับน้ำโขงหนุนสูงจนท่วมตัวเมืองศรีเชียงใหม่ รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ตัวอำเภอถูกตัดขาด เนื่องจากถนนสายระหว่าง อ.ศรีเชียงใหม่ ถึง อ.สังคม จ.หนองคาย ถูกน้ำกัดเซาะพัง สะพานขาด
นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมแล้ว คือ ด.ช.สหรัฐ เวียงคำ อายุ 9 ปี อยู่ที่บ้านตาลชุม ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี ออกมาเล่นน้ำที่ท่วมถนนกลางหมู่บ้าน แล้วจมน้ำเสียชีวิต
ด้าน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำค่อยๆ ลดลงโดยถนนสายเชียงแสน-เชียงของ รถยนต์เริ่มสัญจรไปมาได้ตามปกติแล้ว ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลงเหลือ 9.34 เมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤต 2 เมตร แต่น้ำเข้าท่วมต่อในพื้นที่อำเภอที่อยู่ถัดลงไปคือ อ.เชียงของ และ อ.เวียงแก่น ระดับน้ำหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงของ ลึกถึง 13 เมตร พ้นจุดวัดน้ำถึง 3.50 เมตร บ้านเรือนริมฝั่งถูกน้ำท่วม อาคารด่านพรมแดนไทย-ลาว ตรงท่าเรือบั๊ก ต.เวียง อ.เชียงของ ถูกน้ำท่วมครึ่งหลัง แต่ช่วงบ่ายวันเดียวกันระดับน้ำค่อยๆ ลดลงอีก 50 เซนติเมตร สถานการณ์เริ่มใกล้กลับสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม พบว่าที่ปากแม่น้ำอิง ที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่บ้านปากอิงใต้ ต.ริมโขง อ.เชียงของ น้ำเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร
ต่อมาเวลา 09.00 น. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาตรวจสถานการณ์น้ำท่วม โดยบินสำรวจที่บ้านปงของ ต.แม่เงิน และบ้านศรีดอนชัย ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพ 600 ชุดให้แก่ชาวบ้านที่ประสบภัย โดยพล.ต.อ.โกวิทกล่าวว่า ยังมีบางพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรกรรมถูกน้ำขังอยู่ ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวทางรัฐบาลจะประชุมหารือสร้างแนวตลิ่งกั้นแม่น้ำโขง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้ามาสร้างความเสียหายแล้ว พร้อมทั้งจะปรึกษา ครม.ว่าจะช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบอย่างไรต่อไปด้วย
ส่วนนายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา ผู้ประสานงานเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และวัฒนธรรมลุ่มแม่น้ำโขง-ล้านนา กล่าวว่า จากน้ำท่วมหนักในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตั้งแต่ อ.เชียงแสน อ.เชียงของ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย รวมทั้งในฝั่งแขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว สถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤตใกล้เคียงกับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี พ.ศ.2509 และพ.ศ.2514 แต่ลักษณะการท่วมแตกต่างออกไปจนน่าเป็นห่วงอย่างมาก เนื่องจากในอดีตน้ำท่วมริมฝั่งแม่น้ำโขงหนัก เพราะแม่น้ำสาขา เช่น แม่น้ำกก แม่น้ำอิง ไหลเอ่อและถูกแม่น้ำโขงหนุน แต่สภาพการท่วมในเดือนส.ค.2551 นับเป็นครั้งแรกที่แม่น้ำสาขาไม่ได้มีปริมาณมากพอที่จะเอ่อล้น แต่น้ำที่ท่วมเกิดจากแม่น้ำโขงเข้าท่วมโดยตรง และทะลักขึ้นฝั่งเข้ามาเป็นรัศมีกว่า 10 กิโลเมตร ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง
นายสมเกียรติกล่าวว่า จากข้อมูลวงในระบุว่าปริมาณน้ำครั้งนี้มาจากการปล่อยน้ำของเขื่อนจิ่งหง ที่เมืองเชียงรุ้ง เขตสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ประเทศจีน เป็นเขื่อนที่สร้างเสร็จใหม่ล่าสุด เพิ่งเปิดใช้งานเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเขื่อนที่อยู่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุดเพียงประมาณ 285 กิโลเมตร เป็นหนึ่งใน 3 เขื่อนที่สร้างเสร็จแล้วในจีนตอนใต้ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 3 แห่ง ขณะที่โครงการก่อสร้างเขื่อนทั้งหมดจะให้แล้วเสร็จ 8 เขื่อน ดังนั้นเมื่อผลกระทบจากเขื่อนชุดล่าสุดเกิดขึ้นจึงเห็นควรว่าทางคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ประกอบไปด้วยไทย จีน ลาว พม่า กัมพูชา และเวียดนาม ควรจะหันมาหารือกันเรื่องนี้ใหม่ ว่าควรจะสร้างเขื่อนเพิ่มอีกหรือไม่ รวมทั้งต้องหารือเรื่องการบริหารจัดการน้ำเพื่อไม่ให้กระทบต่อประเทศที่อยู่ท้ายน้ำ เหมือนดังที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
นายสมเกียรติกล่าวอีกว่า เครือข่ายแม่น้ำโขงในประเทศไทยคงจะหารือกัน เพื่อเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันมาหารือกันในเรื่องนี้โดยด่วน ก่อนจะเกิดปัญหามากกว่านี้ โดยเฉพาะการหารือภายในคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง 6 ชาติ ที่มักจะหารือกันไม่ครบทุกประเทศเกี่ยวกับการจัดการแม่น้ำโขงเลย รวมทั้งจะหารือเรียกร้องค่าเสียหายจากโครงการสร้างเขื่อน หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องด้วย นอกจากผลกระทบจะเกิดจากเขื่อนแล้ว เชื่อว่าเกิดจากการระเบิดเกาะแก่งในแม่น้ำโขงตั้งแต่ปีพ.ศ.2545 เป็นต้นมา เพื่อให้การขนส่งสินค้าในแม่น้ำโขงสะดวกมากขึ้น แต่ก็ทำให้น้ำไหลเร็ว และแรงจนส่งผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมด้วย ดังนั้นผลกระทบทั้งหมดจึงควรนำไปสู่การหารือ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบซ้ำซากอีก
ขณะที่ จ.เลย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำจากแม่น้ำโขงยังท่วมในหลายพื้นที่ใน อ.เชียงคาน และ อ.ปากชม ถนนถูกตัดหลายแห่ง ทางอำเภอและบรรเทาสาธารณภัยระดมเรือท้องแบนเข้าไปช่วยเหลือลำเลียงประชาชนไปอาศัยชั่วคราวในพื้นที่สูง โดยเฉพาะที่ อ.เชียงคาน น้ำทะลักท่วมพื้นที่การเกษตร ทั้งสวนไม้ผล นาข้าว และบ่อปลา ทางอำเภอสั่งการให้ อบต.ที่อยู่ติดแม่น้ำโขงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สำหรับสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำโขงวัดได้ที่สถานีอุทกวิทยา อ.เชียงคาน อยู่ที่ 26.80 เมตร อยู่ในระดับวิกฤต
นายกบวน มีที นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปากชม อ.ปากชม กล่าวว่า น้ำโขงเข้ามาที่ลำห้วยปากชม และท่วมบ้านเรือน 4-5 หลัง บางส่วนไหลเข้าวัดโนนศรีสะอาด แต่ไม่มากนัก รวมถึงด่านศุลกากรบ้านโคกไผ่ และบ้านห้วยของห้วยเหียม ต.ปากคัมภีร์ ก็ประสบภัยน้ำท่วม ชาวบ้านต้องมากางเต็นท์นอนกันริมถนน
วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัยเรื่องฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ว่าหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือยังคงมีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณ จ.แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย และเพชรบูรณ์ ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำโขง และตามลุ่มแม่น้ำสาขาต่างๆ มีแนวโน้มสูงขึ้นอีก ขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย อาทิ จ.เชียงราย น่าน เลย หนองคาย นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร เตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากสภาวะน้ำล้นตลิ่งในระยะนี้ไว้ด้วย