ชาวสะเอียบท้า"หมัก"พิสูจน์แก่งเสือเต้น
ข่าวสด
7 มิถุนายน 2551
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.นายเส็ง ขวัญยืน ผู้ใหญ่บ้าน ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ แกนนำคัดค้านโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น ให้สัมภาษณ์กรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประกาศสนับสนุนเขื่อนแก่งเสือเต้นว่า ในวันที่นายสมัครขึ้นพูดเรื่องนี้บนเวที กลุ่มเพื่อนของตนนำโทรศัพท์ไปแนบกับลำโพงเพื่อต่อสายมาให้ตนและชาวบ้านได้ยินเสียงนายสมัครพูดอย่างชัดเจน ซึ่งก็ได้ยินทุกคำพูด ตอนนี้เตรียมปรึกษาหารือกับชาวบ้านว่าจะทำอย่างไรต่อไป
นายเส็งกล่าวต่อว่า ช่วงกลางคืนหลังจากดูข่าวจากทีวี มีชาวบ้านหลายคนเดินทางมาปรึกษาที่บ้านว่าควรจะทำอย่างไร ซึ่งจริงๆ แล้วชาวบ้านเตรียมตัวไว้นานแล้วว่าจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพราะก่อนหน้านี้สมัยนายสมัครเป็นรัฐมนตรีประมาณปี "39-40 เคยออกมาพูดเรื่องสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น จนถูกกลุ่มสมัชชาคนจนเอาขวดขว้างมาแล้ว โดยส่วนตัวนายสมัครก็เป็นคนแบบนี้ มีนิสัยชอบพูดไปเรื่อย แต่จะสร้างได้หรือไม่ยังไม่รู้ เพราะชาวบ้านคงไม่เห็นด้วยแน่นอน ส่วนกรณีที่นายสมัครพูดว่าไม่มีป่าสักทองเหลืออยู่แล้ว หรือมีแค่นกยูงโง่ๆ สองสามตัวที่อยู่ในพื้นที่นั้น ตนอยากถามว่านกยูงหรือคนกันแน่ที่โง่กว่ากัน อยากให้นายสมัครลงมาดูพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร ปกติแล้วนกยูงมีวิถีชีวิตของมัน เวลาหากินในฤดูต่างๆ มันก็ออกไปอีกที่หนึ่ง เวลาจะวางไข่ก็กลับมาอีกที่หนึ่ง หรือเวลาผสมพันธุ์ก็ใช้อีกที่หนึ่ง ก็เหมือนกับคน เวลานอน กิน ทำงาน ก็ใช้คนละที่กัน ดังนั้นถ้าหากสร้างเขื่อนน้ำก็จะท่วมทันที และแน่นอนจะสร้างผลกระทบแน่
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคิดเห็นหลังการพูดของนายสมัครแล้วนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ออกมารับลูกทันที นายเส็งกล่าวว่า เรื่องนี้ตนเคยพูดกับนางอนงค์วรรณแล้ว เพราะชาวบ้านไม่เห็นด้วยและไม่เอาเขื่อนนี้ และยังนำเสนอเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาที่มีอีกหลายวิธี เหมือนกับคนป่วย ที่ไปหาหมอแล้วหมอจะผ่าตัดใหญ่เลยหรือ ต้องตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของโรคเสียก่อน แล้วค่อยๆ แก้ปัญหาทีละจุด
นายเส็งกล่าวอีกว่า แก่งเสือเต้นนั้นถ้าจะแก้ได้จริงต้องแก้ปัญหาทั้งระบบ ทั้งแม่น้ำขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไม่ใช่ว่าจะสร้างเขื่อนเลย หลังจากนายสมัครได้เป็นนายกฯ กลุ่มชาวบ้านคิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องออกมาพูดเรื่องนี้แน่ๆ พวกตนไม่ได้เอาด้วยกับนายสมัครอยู่แล้ว แต่เชื่อในนโยบายของพรรคพลังประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้พ.ต.ท.ทักษิณในสมัยเป็นนายกฯ เคยมาถามว่าจะเอาอย่างไร พวกชาวบ้านก็บอกว่าไม่เอา ทุกอย่างต้องอยู่ที่ชาวบ้าน และตอนนี้นายสมัครก็ออกมาพูดเรื่องนี้จริงๆ ชาวบ้านเลยคิดว่าต้องเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยไม่กลัวอะไร กำลังหารือกันอยู่ว่าจะเอาอย่างไร บางทีอาจจำเป็นจะต้องรวมตัวกันขึ้นไปกรุงเทพฯ ต้องหารือกันก่อน อย่างไรก็ตามในกลุ่มของพวกตนไม่ได้มีแนวทางเรื่องการเมือง แต่จะเน้นเรื่องความเดือดร้อนของท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่
"กับนายสมัครก็เคยเจอกันมาแล้ว พวกเราเคยทั้งฝังหุ่น หรือฉี่รดมาแล้ว ครั้งนี้อาจจะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ต้องเจอกัน แต่อย่างไรก็ตามคงต้องรอผลสรุปจากที่ประชุมของกลุ่มพ่อครัวใหญ่ของกลุ่มสมัชชาคนจนที่ตอนนี้กำลังประชุมกันอยู่ที่ จ.ตรัง หากเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ก็คงจะหารือและตกลงกันได้ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป" นายเส็งกล่าว