เครือข่ายแม่น้ำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ค้าน กฟผ.ย่องเงียบตกลงพม่าสร้างเขื่อนสาละวิน
วันที่ 12 ธันวาคม น.ส.เพียรพร ดีเทศน์ ผู้ประสานงานเครือข่ายแม่น้ำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานายไกรสีห์ กรรณสูตร ประธานบริษัท กฟผ.จำกัด(มหาชน) ได้เดินทางไปลงนามในบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู) กับรัฐบาลทหารพม่าเพื่อทำโครงการร่วมทุน สร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำหลายเขื่อนในแม่น้ำสาละวินและตะนาวศรี ประเด็นนี้สร้างความกังวล และมีคำถามเกี่ยวกับกระบวนการวางแผนและดำเนินงานโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและขาดความโปร่งใสและพื้นที่ของโครงการเขื่อนเหล่านี้อย่างยิ่ง เพราะพื้นที่ที่เป็นแหล่งก่อสร้างนั้น ล้วนเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลทหารพม่ากระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนและทำสงครามกับกองกำลัง ชาติพันธุ์อย่างต่อเนื่องโครงการที่เป็นการลงทุนด้วยเงินทุนจากทั้งภาคเอกชนและภาครัฐขนาดใหญ่ จะส่งผลให้คนจำนวนมาก ต้องอพยพหาที่อยู่ใหม่ทั้งยังมีผลกระทบอย่างกว้างขวางทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม การเมือง และเศรษฐกิจ ในขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับแผนการสร้างเขื่อนไม่มีการ พูดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
น.ส.เพียรพรกล่าวว่า ประธานบริษัท กฟผ.ระบุหลังจากลงนามในเอ็มโอยูดังกล่าวแล้วเสร็จว่า โครงการนี้จะช่วยสร้างรายได้ที่จำเป็นต่อประเทศพม่าอย่างมาก ทั้งๆ ที่ ที่ผ่านมา รัฐบาลทหารพม่าใช้เงินงบประมาณมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศเพื่อซื้ออาวุธ การที่รัฐบาลไทยอ้างว่าการสร้างเขื่อนในประเทศเพื่อนบ้านทำให้ได้ไฟฟ้า ราคาถูก เป็นการมองข้ามต้นทุนที่แท้จริงทั้งด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศไทยเอง
"ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทย และ กฟผ.ยกเลิกการลงนามในเอ็มโอยูดังกล่าว และไม่เข้าร่วมในโครงการใดๆ ที่ไม่มีกระบวนการให้ประชาชนมีส่วนร่วมและมีการชี้แจงข้อมูลอย่างถ่องแท้ ทั้งนี้ตามข้อเสนอจากคณะกรรมการเขื่อนโลกและบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญไทย ให้เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะโดยทันทีทั้งข้อมูลเกี่ยวกับโครงการและผลกระทบที่จะมีต่อประชาชนใน ฝั่งไทยและพม่าโดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการที่ผ่านมา รายงานการศึกษาผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม" น.ส.เพียรพรกล่าว
อ้างอิง : http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01lif02131248&day=2005/12/13