คนอุบลฯไม่เอาเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง จี้รัฐทบทวน-เปิดเผยข้อมูลผลกระทบสวล.
จากกรณีที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ลงนามบันทึกความเข้าใจกับประเทศลาว เพื่อก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำฝายขั้นบันไดกั้นแม่น้ำโขง หรือโครงการไฟฟ้าพลังน้ำฝายบ้านกุ่ม บริเวณบ้านท่าล้งและดอนกุ่ม ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี โดยผลกระทบที่ตามมาทำให้พื้นที่กว่า 16,641 ไร่ ถูกน้ำท่วมนั้น
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.อุบลราชธานี เปิดเวทีสาธารณะรับฟังปัญหาจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างฝายบ้านกุ่มและมีผู้เข้าร่วมรับฟังกว่า 200 คน โดยนางเจรจา มาลี อายุ 65 ปี ชาวบ้านบ้านคันท่าเกวียน เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวการสร้างเขื่อน ชาวบ้านต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับวิถีชีวิตบริเวณริมฝั่งโขงเป็นอย่างมาก เพราะถ้าชาวบ้านได้รับผลกระทบ รัฐต้องมีการชดเชยอย่างเหมาะสมกับสิ่งที่ลงทุนไป โดยรัฐต้องมาพูดคุยเพื่อให้ทราบความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง
ด้านนายสำรอง พิมพ์วงศ์ ชาวบ้านบ้านปากลา กล่าวว่า ไม่อยากให้สร้างเขื่อน เพราะจะกระทบถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่และสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนโครงการนี้ และศึกษาว่าประชาชนจะได้ประโยชน์หรือต้องสูญเสียอะไร อีกทั้งควรให้ความรู้กับประชาชนให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เรื่องผลกระทบที่ตามมา การประกอบอาชีพทดแทนและการชดเชยด้านต่างๆ
นายนริศ มงคลศรี นายอำเภอโขงเจียม กล่าวว่า เมื่อรับฟังความเห็นของชาวบ้าน ทำให้รู้ว่าประชาชนมีความเป็นห่วงเรื่องการสร้างเขื่อน เนื่องจากข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเขื่อนยังไม่มีความกระจ่างเท่าที่ควร ซึ่งตนจะประสานขอข้อมูลนำมาเผยแพร่ให้ผู้ได้รับผลกระทบทราบต่อไป