โครงการสร้างเขื่อนในพม่าปะทุความขัดแย้งรุนแรง
การสู้รบที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ใกล้กับจุดสร้างเขื่อนเดพายินและเขื่อนฉ่วยหลี่ในตอนเหนือของพม่าชี้ให้เห็นว่าการเสริมกำลังของกองทัพพม่าเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับโครงการก่อสร้างเขื่อนของรัฐบาลจีนนั้นจะยิ่งทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้น
การปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารพม่าและกองกำลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Organization (KIO)) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริเวณจุดสร้างเขื่อนเดพายิน 1 และเดพายิน 2 ที่ดำเนินการโดยบริษัท Datang ของรัฐบาลจีน เป็นการฉีกสนธิสัญญาหยุดยิงที่ทำไว้เมื่อ 17 ปีก่อนลงอย่างสิ้นเชิง การสู้รบครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และประชาชนกว่า 2,000 คนต้องอพยพหนีตายไปยังชายแดนจีน
กองทัพพม่าได้ส่งทหารหลายร้อยนายเข้าประจำการเพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่โครงการสร้างเขื่อนเดพายิน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับฐานทัพของ KIO ล่าสุดการสู้รบได้ขยายวงกว้าง มีรายงานว่าเมื่อวานนี้ได้เกิดการปะทะกันหลายครั้งใกล้กับเขื่อนฉ่วยหลี่ 1 ทางตอนเหนือของรัฐฉานด้วย
ในรัฐคะฉิ่นเพียงแห่งเดียวมีแผนการก่อสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ถึง 9 แห่งที่ดำเนินการโดยบริษัทของรัฐบาลจีน ได้แก่ เขื่อนมิตซงบนต้นน้ำอิระวดี
การสู้รบใกล้กับโครงการก่อสร้างเขื่อนเดพายินเกิดขึ้นหลังจาก KIO ได้ส่งสาส์นเตือนไปยังรัฐบาลจีนถึงสงครามกลางเมืองที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีการก่อสร้างเขื่อนมิตซง ซึ่งการเรียกร้องให้ระงับโครงการดังกล่าวจากองค์กรต่างๆ หลายภาคส่วนกลับถูกเพิกเฉย
โครงการก่อสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ส่งผลกระทบด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล ขณะที่ไฟฟ้าที่ผลิตได้ส่วนใหญ่จะถูกส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านและใช้ในกองทัพ นอกจากนี้ โครงการก่อสร้างเขื่อนซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของชนกลุ่มน้อย ยังเป็นช่องทางการขยายกำลังไปยังพื้นที่ดังกล่าวได้อีกด้วย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทหารพม่ากองพันราบเบาที่ 423 ได้เข้าไปประจำการเพื่อรักษาความปลอดภัยในจุดก่อสร้างเขื่อนยวาติ๊ดในเขตรัฐคะเรนนี ซึ่งบริษัท Datang มีโครงการก่อสร้างเขื่อนบนแม่น้ำสาละวินและแม่น้ำสาขาหลายโครงการในรัฐคะเรนนี ขณะที่กลุ่มต่อต้านติดอาวุธมีการเคลื่อนไหวพร้อมรับสถานการณ์ใกล้กับพื้นที่ดังกล่าว โดยมีการโจมตีรถบรรทุกเครื่องมือก่อสร้างเขื่อนเมื่อเดือนธันวาคม 2553
การจู่โจมกองกำลังรัฐฉาน-เหนือ (Shan State Army-North) หลายครั้งใกล้บริเวณหนองผาดำ ริมฝั่งแม่น้ำสาละวินในรัฐฉาน ส่งผลให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนมาเป็นเวลากว่า 3 เดือน เมื่อเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าเทคนิคของจีนได้หายตัวไปในจุดสร้างเขื่อนท่าซางบนแม่น้ำสาละวิน ด้านกองทัพพม่าได้ส่งกำลังทหาร 3 กองพันเพื่อเข้าค้นหาและเสริมความปลอดภัยในจุดดังกล่าว
“รากเหง้าปัญหาความขัดแย้งในพม่าไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึง นอกจากการสร้างรัฐบาลใหม่ ประเทศยังคงตกอยู่ภายใต้การบริหารที่ย่ำแย่โดยรัฐบาลเผด็จการ”
“โครงการสร้างเขื่อนขนาดยักษ์เหล่านี้มีแต่จะเพิ่มความขัดแย้งให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่ประชาชนกลับไม่ได้รับประโยชน์แต่อย่างใด” จาย จาย ผู้ประสานงานองค์กรเครือข่ายแม่น้ำพม่า (Burma Rivers Network) กล่าว
ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติม จายจาย 088 415 4386
อ้างอิง : www.burmariversnetwork.org