อาหารที่จะบริโภคส่วนใหญ่ต้องผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อทำให้สุกก่อน แต่เมนูที่จะนำเสนอต่อไปนี้ไม่ต้องนำมาปรุงให้สุกก็สามารถรับประทานได้คือ “ส้าปลี” ค้นหาสูตรนี้ได้จากกลุ่มชาติพันธุ์ลาวในลุ่มแม่น้ำโขง และถือได้ว่าใช้ประโยชน์จากพืชผักตามชุมชนเกิดเป็นเมนูอาหารที่แปลกแตกต่าง ไม่ว่าจะกินเป็นมื้ออาหารหรือสำหรับทานเล่นให้กับแขกผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี

                “ส้า” ในความหมายของการปรุงอาหารคนภาคเหนือของประเทศไทย คือการปรุงอาหารหารทั้งที่ยังดิบๆอยู่ไม่ต้องผ่านวิธีการทำให้สุก เช่น ส้าปลา ส้าเนื้อ ทำให้รสชาติของอาหารแตกต่างจากการทำให้สุก วัตถุดิบและเครื่องปรุงในเมนูนี้ล้วนเป็นพืชผักสมุนไพร หัวปลีสามารถกินได้ทั้งสุกและดิบ ขึ้นชื่อสำหรับการช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ซ้ำยังบำรุงน้ำนมของผู้หญิงในวัยให้นมบุตร ผู้ที่รับประทานจึงไม่ต้องเกรงกลัวพยาธิจากเนื้อสัตว์ แม้ขั้นตอนการปรุงจะใช้เวลาและความละเอียดอ่อนก็ตาม รับรองได้ว่าความหอมของงาดำคั่วสุก ความอร่อยในส่วนผสมที่คลุกเคล้าให้เข้ากันนั้นไม่แพ้เมนูไหนๆเลย

เครื่องปรุง

1.     หัวปลีอ่อนหั่นละเอียด 2 หัว (หั่นแล้วแช่ในน้ำเกลือเพื่อไม่ให้เป็นสีดำและช้ำ)

2.    มะเขือแจ้เหลืองหั่นละเอียด (มะเขือขื่น) 10 ลูก

3.    งาดำคั่ว บดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ

4.    พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ (ตามชอบ)

5.    กระเทียมหั่นละเอียด 5 กลีบ

6.    หอมแดงหั่นละเอียด 3 หัว

7.    น้ำปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ (ตามชอบ)

8.    เกลือป่น 1 ช้อนชา

9.    ใบหอมป้อมเป้อหั่นละเอียด(ผักชีฝรั่ง) 1 กำ

10. ชูรส 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1.     นำหัวปลีอ่อน และมะเขือแจ้เหลืองใสในภาชนะรวมกัน

2.    ใส่พริกป่น กระเทียม หอมแดง งาดำ น้ำปลาร้า เกลือป่นและชูรส ตามลำดับคนให้เข้ากัน ตามด้วยใบหอมป้อมเป้อ ชิมปรุงรสตามชอบ ตักเสริฟพร้อมกับเครื่องเคียง เช่นสะระแหน่ ชะอม แคบหมู แตงกวา