ไกรศักดิ์-ประสาร จี้รัฐตั้งเวที กก.ลุ่มน้ำโขงบีบจีนปล่อยน้ำ

fas fa-pencil-alt
ไทยรัฐ
fas fa-calendar
6 มีนาคม 2553

ส.ว.-ส.ส.เปิดข้อมูลจีนกักเก็บน้ำทำน้ำโขงแห้ง จี้รัฐใช้เวทีกก.ลุ่มแม่น้ำโขงถก แนะรัฐไทยเจรจารัฐบาลจีนเปิดทาง 5 ปท.เข้าตรวจสอบเขื่อน...

นายประสาร มฤคพิทักษ์ ประธานอนุกรรมาธิการศึกษาคุณค่า การพัฒนา และผลกระทบในลุ่มน้ำโขง ในกรรมาธิการศึกษาและตรวจสอบเรื่องทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา นายสุรจิต ชิรเวทย์ ประธานอนุกรรมาธิการทรัพยากรน้ำ ในกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎรและนางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีต ส.ว. เชียงราย ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงความผิดปกติของน้ำในลำน้ำโขง และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเจรจากับรัฐบาลจีนอย่างเร่งด่วน

นายประสารกล่าวว่า เมื่อวันที่ 6-7 มี.ค.ที่ผ่านมา ตน ผู้สื่อข่าวไทยและต่างประเทศ 17 สำนัก ได้เดินทางไปพบปะแลกเปลี่ยนกับประชาชนในลุ่มแม่น้ำโขง และได้ล่องเรือในลำน้ำโขงบริเวณคอนผีหลง-เชียงของ-ปากอิง-ผาได ซึ่งพบว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีการขึ้นลงเร็วอย่างผิดปกติ โดยจากการล่องเรือ 2 วัน และการพบปะชาวบ้าน พบว่าในรอบ 10 วันที่ผ่านมารับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดปกติ ขณะที่ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาระดับน้ำลดลงผิดปกติ

โดยในวันที่ 27 ก.พ.2553 ระดับน้ำอยู่ที่ 36 ซม.แต่ในวันที่ 28 ก.พ. 2553 ระดับน้ำอยู่ที่ 56 ซม.ซึ่งสูงกว่าวันที่ 27 ก.พ.ถึง 20 ซม. และวันที่ 7 มี.ค.2553 ระดับน้ำอยู่ที่ 65 ซม.จะเห็นได้ว่าน้ำเพิ่มขึ้นถึง 20 ซม.ภายในวันเดียวทั้งที่ฝนไม่ตกและไม่มีน้ำในแม่น้ำสาขาอื่นมาเติม เพราะแม่น้ำสาขาล้วนแห้งขอดทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบในปี 2551 ซึ่งน้ำท่วมหนักในอำเภอเชียงของ เชียงแสนและเวียงแก่น วัดระดับน้ำได้ดังนี้ คือวันที่ 11 ส.ค. 2551 มีระดับน้ำอยู่ที่ 11.18 ซม. วันที่ 12 ส.ค. 2551 ระดับน้ำอยู่ที่ 12.50 ซม.และวันที่ 13 ส.ค. 2551 ระดับน้ำอยู่ที่ 13.60 ซม.

นายประสาร กล่าวต่อว่า สาเหตุที่น้ำโขงแห้ง หากเกิดจากภาวะโลกร้อนจะต้องมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ แต่การที่ระดับน้ำโขงขึ้นเร็วในเดือนส.ค. 2551 และลงเร็วในเดือนม.ค.-ก.พ. 2553 แล้วกลับมาขึ้นเร็วเมื่อ 28 ก.พ. 2553 จึงเนื่องมาจากการเก็บกักและการปล่อยน้ำจากเขื่อนเป็นด้านหลัก นอกจากนี้นางเตา หลินอิว ผู้ว่าเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา ได้แจ้งทางโทรศัพท์กับนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เมื่อปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมานี้ว่า มณฑลยูนนานแห้งแล้งมาก จึงต้องเก็บกักน้ำในเขื่อนไว้ อย่างไรก็ตามชะตากรรมของ 5 ประเทศท้ายน้ำจึงต้องขึ้นอยู่กับเมตตาธรรมของจีนว่าจะเปิดหรือปิดเขื่อนอย่างไร เพราะขณะนี้เสมือนว่าจีนจะถือเอาแม่น้ำโขงเป็นสมบัติของตนเอง

นายไกรศักดิ์ กล่าวว่า ตนขอเสนอให้รัฐบาลไทยเอาเวทีประชุมคณะกรรมการลุ่มแม่น้ำโขงที่จะมีการประชุมในต้นเดือน เม.ย.นี้ ที่หัวหิน บรรจุเรื่องเขื่อนจีนสร้างผลกระทบต่อแม่น้ำโขงเป็นวาระสำคัญและเร่งด่วน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างฉับพลัน นอกจากนี้รัฐบาลไทยควรเร่งเจรจากับรัฐบาลจีนทันทีเพื่อเปิดทางให้อีก 5 ประเทศได้เข้าตรวจสอบการเก็บกักน้ำของเขื่อนจีนโดยเปิดเผย เพื่อสรุปข้อเท็จจริงนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้อง

นอกจากนี้รัฐบาลไทยควรมอบหมายให้มีหน่วยราชการหรือคณะกรรมการที่มีภารกิจเฉพาะแน่นอนในการเป็นเจ้าภาพตรงเพื่อแก้ปัญหาแม่น้ำโขงอย่างจริงจัง แทนที่จะปล่อยให้ปัญหาแม่น้ำโขงไร้ผู้รับผิดชอบอย่างที่เป็นอยู่ และรัฐบาลไทยควรหาทางร่วมกับอีก 5 ประเทศรวมทั้งจีน เพื่อปรึกษาหารืออย่างสร้างสรรค์ในการกำหนดกติการ่วมกันในการบริหารจัดการน้ำโขงร่วมกันอย่างยั่งยืนด้วยไมตรีจิตมิตรภาพแบบเดียวกับแม่น้ำดานูบในยุโรป

 

อ้างอิง : http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod.php?day=2004/06/01&s_tag=03pro12010647§ionid=0313&show=1&sk=2&searchks=''

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง