แผนผันน้ำทั่วประเทศ

fas fa-pencil-alt
สำนักข่าวไทย
fas fa-calendar
27 พฤษภาคม 2551

ผู้เสนอ : กลุ่มวิเคราะห์ข่าวและฐานข้อมูล สำนักโฆษก

กรมทรัพยากรน้ำยืนยันแผนผันน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางมีความจำเป็นเพื่อแก้ไขการขาดแคลนน้ำ โดยวันพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งดำเนินการ

นายศิริพงศ์ หังสพฤกษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ทั่วทุกภาคของประเทศขาดแคลนน้ำประมาณ 21,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางขาดแคลนมากที่สุด จึงศึกษาเรื่องการผันน้ำตั้งแต่ปี 2548 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แนวผันน้ำที่สามารถดำเนินการได้ทันทีคือ แนวผันน้ำ น้ำงึม-ห้วยหลวง-ลำปาว-ชี ระยะที่ 1 ผันน้ำจากลุ่มน้ำห้วยหลวง จังหวัดหนองคาย ข้ามมายังหนองหานกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ในลุ่มน้ำชีเพื่อนำน้ำไปยังอ่างเก็บน้ำลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเตรียมจะต่อเติมเพิ่มความจุของอ่าง ระยะที่ 2 จะเจรจากับลาวเพื่อผันน้ำจากฝายทดน้ำที่ปากน้ำงึมผ่านอุโมงค์ผันน้ำลอดใต้แม่น้ำโขงยาว 1.1 กิโลเมตร เข้ามาสู่ห้วยหลวงและกระจายไปตามแนวผันน้ำของโครงการระยะที่ 1 ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี ซึ่งสามารถนำน้ำไปใช้ในพื้นที่เกษตร 3,500,000 ไร่
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ มั่นใจว่า การผันน้ำจากแม่น้ำโขงจะไม่มีปัญหา เพราะแม่น้ำโขงอยู่ในพื้นที่สูง 160 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง กระแสน้ำที่ไหลผ่าน 150,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี แต่น้ำที่จะผันเข้ามาเพียง 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี

     ส่วนโครงการผันน้ำในพื้นที่ภาคกลาง แนวผันน้ำ น้ำยวมตอนล่าง-ภูมิพล มีความเหมาะสมมากที่สุด เนื่องจากผันน้ำได้ 2,100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ใช้ในพื้นที่เกษตรได้ 850,000 ไร่ สามารถผลิตข้าวเพิ่มขึ้นได้ 1,600,000 ตัน


     แผนผันน้ำดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการแล้ว และวันพรุ่งนี้จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมเพื่อเตรียมดำเนินการ โดยอาจแต่งตั้งคณะกรรมการเพิ่มต้นทุนน้ำแห่งชาติขึ้นมาบริหารจัดการ งบประมาณที่จะใช้ในการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำและภัยแล้งทั่วประเทศ  28,000 ล้านบาท โดยเป็นงบพิเศษที่กระทรวงการคลังจะกู้จากต่างประเทศ

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง