ชี้หน่วยงานรัฐปัดฝุ่นสารพัดโครงการรับคำสั่ง คสช. ยกเลิกคำสั่ง 9/2559ฯ

fas fa-pencil-alt
สำนักข่าวชายขอบ
fas fa-calendar
10 มีนาคม 2559

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2559 เวลา 10.00 น. ที่กองพลทหารราบที่ 4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดพิษณุโลก ได้มีการจัดการประชุมเรื่องการแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองวังชมพู ครั้งที่ 2 ซึ่งมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าร่วมการประชุม โดยมีพลตรี นพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 4 เป็นประธานการประชุม


ทั้งนี้ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง แต่มีชาวบ้านจากพื้นที่ท้ายน้ำเข้าร่วมเวทีประมาณ 15 คนเท่านั้น ขณะที่ชาวบ้านจากตำบลชมพูที่อยู่ในพื้นที่ต้นน้ำและมีส่วนตัวส่วนเสียที่สำคัญไม่ได้เดินทางเข้าร่วมเวที ซึ่งเป็นไปตามมติของชุมชนที่ประกาศไว้ในจดหมายคัดค้านกระบวนการรับฟังซึ่งยื่นให้ตัวแทนผู้บัญชาการกองพลทหารที่ 4 เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา


 สำหรับบรรยากาศในที่ประชุมนั้น กรมชลประทานได้ชี้แจงว่า ภัยแล้งและน้ำท่วมถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องเร่งแก้ไขและป้องกัน ซึ่งการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ออกคำสั่งฉบับที่ 9/2559 จะส่งผลให้สามารถลดขั้นตอนต่างๆ ของการดำเนินโครงการเขื่อนคลองชมพูให้ทำได้เร็วขึ้น ซึ่งการสร้างเขื่อนจะเป็นสิ่งที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชนที่เดือนร้อนได้ ส่วนเรื่องรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ที่เคยมีการศึกษาไว้แล้ว ที่ประชุมยังไม่มีข้อสรุปว่าจะต้องทำการศึกษาใหม่หรือไม่


ขณะที่ตัวแทนอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง กับสำนักทรัพยากรป่าไม้ระบุว่า อาจไม่จำเป็นต้องสร้างเขื่อนเนื่องจากป่าต้นน้ำที่สมบูรณ์สามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งกักเก็บน้ำตามธรรมชาติ และสามารถสร้างความชุ่มชื้นให้กับคลองชมภูได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว หากมีการสร้างเขื่อนอาจจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อพื้นที่ป่าต้นน้ำและสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่ชาติและเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยเฉพาะจระเข้ธรรมชาติในคลองชมพูที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์

ด้านนายธีรเชษฐ์ โสทอง รองประธานเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากชาวบ้านไปยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 และนายอำเภอเนินมะปรางเมื่อวันที่ 9 มีนาคม เพื่อขอให้ทบทวนกระบวนการรับฟังความคิดเห็นที่กำลังจัดขึ้น หลังจากนี้ชาวบ้านเตรียมที่จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ยกเลิกโครงการเขื่อนคลองชมพูของกรมชลประทาน และยกเลิกคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 9/2559 ที่ประกาศภายใต้การใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราว พร้อมทั้งจะมีการนำเสนอทางเลือกในการบริหารจัดการลุ่มน้ำคลองชมภูที่เหมาะสม และสอดคล้องกับแนวทางการมีส่วนร่วมของชุมชนในลุ่มน้ำ

ด้านเครือข่ายชุมชนคนรักป่าลุ่มน้ำแม่แจ่มตอนบน ออกแถลงการณ์คัดค้านคำสั่ง คสช. 9/2559 ระบุว่า ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ มีคำสั่งแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 9/2559 ให้เพิ่มเติมข้อความในมาตรา 47 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 ว่า “ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อประโยชน์การดำเนินโครงการหรือกิจการด้านคมนาคมขนส่ง การชลประทาน การป้องกันสาธารณภัย โรงพยาบาล หรือที่อยู่อาศัย ในระหว่างที่รอการพิจารณารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามวรรคหนึ่ง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการหรือกิจการนั้น อาจเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งเอกชนผู้รับดำเนินการตามโครงการหรือกิจการไปพลางก่อนได้ แต่จะลงนามผูกพันในสัญญาหรือให้สิทธิกับเอกชนผู้รับดำเนินการตามโครงการหรือกิจการไม่ได้”

เครือข่ายชุมชนรักษ์ป่าลุ่มน้ำแม่แจ่มตอนบน เห็นว่าคำสั่งเพิ่มเติมข้อความดังกล่าว เป็นการรวบรัดตัดตอนการดำเนินโครงการและกิจการที่ต้องจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนรุนแรงขึ้นไปอีก ลำพังโครงการและกิจการที่ผ่านการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ผ่านมา ก็สร้างปัญหาให้กับชุมชนและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรุนแรงอยู่แล้ว อีกทั้งคำสั่งแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าว ยังเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับภาครัฐและเอกชนที่มีผลประโยชน์ร่วมกันอีกด้วย เครือข่ายฯขอคัดค้านคำสั่งแก้ไขเพิ่มเติมข้อความดังกล่าว และขอให้หัวหน้ารักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติทบทวน แก้ไข หรือยกเลิกคำสั่ง 9/2559 เพื่อคืนความสุขให้กับประชาชน

อ้างอิง : https://transbordernews.in.th/home/?p=11944

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง