รายงานน้ำโขงท่วมหลากที่จังหวัดเลย และจังหวัดหนองคาย

fas fa-pencil-alt
fas fa-calendar
12 สิงหาคม 2551

จากการลงพื้นที่ใน ๓ อำเภอ ๒ จังหวัดคือ อำเภอเชียงคาน ปากชม จังหวัดเลย และอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ชาวบ้านในพื้นที่ได้ให้ข้อมูลตรงกันว่า น้ำในแม่น้ำโขงเริ่มหนุนสูงขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑๒ เดือนสิงหาคม ๒๕๕๑ โดยในวันที่ ๑๒ นั้นนน้ำเริ่มขึ้นมาทีละน้อย และเริ่มล้นตลิ่งเข้าท่วมในวันที่ ๑๓-๑๔ เดือนสิงหาคม ๒๕๕๑ หลังจากน้ำทรงตัวอยูในวันที่ ๑๔ พอถึงวันที่ ๑๕-๑๖ น้ำก็เริ่มลดระดับจากจุดอันตรายที่อยู่ที่ประมาณ ๑๓ เมตร

            พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้คือหมู่บ้านที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายเชียงคาน-หนองคาย และหมู่บ้านที่อยู่ติดกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงแม่น้ำโขง โดยในอำเภอเชียงคานหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบคือ ชุมชนวัดท่าคก บ้านห้วยซวก บ้านผาแบ่น บ้านบุฮม คกไผ่ หาดเบี้ย ส่วนในอำเภอปากชมหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบคือ บ้านปากเนียม บ้านสงาว
บ้านหาดคำภีร์ บ้านคกเว้า บ้านห้วยขอบ บ้านห้วยเหียม และในส่วนของอำเภอสังคม จังหวัดหนองคายหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบคือ บ้านหนอง บ้านม่วง บ้านปากห้วยฮวย เขตเทศบาลอำเภอสังคม บ้านสังกะลี บ้านนาขาม

            โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นแยกเป็นความเสียหาย ๒ ส่วนคือที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทำกิน น้ำที่ล้นตลิ่งเข้าท่วมในครั้งนี้ ส่วนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือพื้นที่การเกษตรที่อยู่บนดอนในแม่น้ำโขง และที่อยู่ตามริมตลิ่ง บ่อปลาที่อยู่ติดกับลำห้วยสาขา นาที่ข้าว

            แปลงเกษตรริมแม่น้ำโขงที่ได้รับผลกระทบคือไร่กล้วย ไร่มะเขือ มะละกอ ข้าวโพด นาข้าว ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยวผลผลิต ส่วนหนึ่งกำลังออกดอกผล การประเมินความเสียหายเบื้องต้น จากลงพื้นที่สัมภาษณ์ชาวบ้านในหบายพื้นที่พบว่า ไร่ข้าวโพดเมื่อคิดเป็นมูลค่าเทียบอัตราต่อไร่ และจำนวนผลผลิตที่ได้จากหนึ่งพบว่า แต่ละคนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแปลงข้าวโพดคิดเป็นมูลค่าเงินที่จะได้รับหลัจาการขายข้าวโพดเสร็จต่ำสุดอยู่ที่ ๑๐,๐๐๐ บาทต่อผลผลิตทั้งหมด สูงสุดประมาณ ๕๐,๐๐๐ บาท โดยการขายข้าวโพด ชาวบ้านนิยมขายเหมาคิดอัตราการขายที่น้ำหนักรวมเป็นตัน เพราะจะได้ราคาดีกว่าการขายย่อยที่มีน้ำหนักไม่ถึงตัน (๑ ตันเท่ากับ ๑,๐๐๐ กิโลกรัม)

            นอกจากนั้น พื้นที่แปลงผักบนดอนที่ถูกน้ำท่วม ชาวบ้านไม่สามารถประเมินค่าออกมาได้ทั้งหมดว่า คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเท่าไหร่ แต่โดยรวมอยู่ที่ประมาณคนละ ๑๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป

            น้ำโขงที่ล้นตลิ่งไหลเข้ามท่วมพื้นที่ต่างๆ ตามริมแม่น้ำโขงในครั้งนี้ไม่ได้ท่วมเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขงเพียงอย่างเดียว น้ำยังได้ไหลเข้าไปในแม่น้ำสาขา และเอ่อท่วมไร่นาในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ตำบลม่วง ตำบลแก้งไก่ อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย น้ำได้ท่วมพื้นที่นาข้าวไปประมาณ ๕๐๐ ไร่ ซึ่งในตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินค่าความสเยหายเบื้องต้นได้

            ที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมคืออำเภอเชียงคาน ๕ หลังคาเรือน อำเภอปากชม ๕ หลังคาเรือน อำเภอสังคม ๔๐ หลังคาเรือน ถนนสาย ๒๑๑ เส้นเลียบริมโขงจากเชียงคานจนถึงอำเภอศรีเชียงใหม่ถูกน้ำท่วมหลายแห่ง

            สถานการณ์ล่าสุด น้ำในเขตอำเภอเชียงคานได้ลดระดับลงสู่ใกล้เข้าสู่สภาวะปกติ แต่ในพื้นที่ริมตลิ่งน้ำยังคงท่วมพื้นที่ทำการเกษตร ถนนรถเล็กสามารถผ่านไปได้ ส่วนที่อำเภอสังคมน้ำได้เริ่มลดระดับลงเช่นกัน แต่ยังมีหลายพื้นที่ริมตลิ่งน้ำยังคงท่วมแปลงเกษตรของชาวบ้าน และมีบ้านเรือนอีกจำนวนหนึ่งยังถูกน้ำท่วม ถนนบางช่วงจากอำเภอปากชมไปอำเภอสังคมรถไม่สามารถวิ่งผ่านไปได้

            การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นทางส่วนปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละที่ได้นำกระสอบทรายเข้าไปกั้นไว้ตามถนน เพื่อป้องกันน้ำที่จะหลากมาท่วมอีกครั้ง บางพื้นที่ก็มีการลงพื้นที่มอบข้าวสาร น้ำ ให้ผู้ประสบภัย เพื่อเปนการช่วยเหลือเบื้องต้น แต่บางแห่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ เพราะอยู่ในช่วงของการเตรียมการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และนอกจากนั้นยังไม่ได้มีการสำรวจข้อมูลความเสียหาย และประมวลผลความเสียหายที่เกิดขึ้นออกมาเป็นตัวเลขความเสียหายโดยรวมจากภาวะน้ำโขงเอ่อล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมพื้นที่ริมฝั่งโขง และพื้นที่แม่น้ำสาขา ลำห้วยสาขา

ข้อสังเกตของชาวบ้านจากการลงพื้นที่พูดคุยในหลายหมู่บ้าน ชาวบ้านได้ตั้งข้อสังเกตว่า น้ำท่วมในครั้งนี้ไม่ได้เหมือนปี ๒๕๐๙ และปี ๒๔๔๕ ในทั้ง ๒ ปีที่กล่าวมา น้ำท่วม เพราะฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน รวมทั้งน้ำได้ท่วมมาจากแม่น้ำสาขา ลำห้วยสาขา และแม่น้ำโขงก็ค่อยๆ หนุนสูงขึ้น แต่น้ำท่วมในครั้งนี้ แม่น้ำโขงหนุนสูงเพียงอย่างเดียว แม่น้ำสาขา ลำห้วยสาขาต่างๆ เช่น แม่น้ำเลย ห้วยซวก ห้วยขอบ ห้วยเหียมไม่มีน้ำพอที่น้ำจะท่วมได้ ปกติถ้าน้ำท่วมน้ำจะท่วมพื้นที่ต้นน้ำก่อน แล้วค่อยท่วมที่พื้นที่อื่น แต่น้ำท่วมในครั้งนี้ พื้นที่ต้นน้ำน้ำไม่ท่วม แต่ท่วมตามริมฝั่งโขงแทน และน้ำโขงก็เอ่อท่วมเข้าไปน้ำสาขา สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้หลายพื้นที่ได้รับความสเยหายจากน้ำท่วมในครั้งนี้คือ ไม่ได้มีการแจ้งให้ชาวบ้านทราบล่วงหน้าว่าจะมีพายุฝน และจะมีฝนตกหนักให้ชาวบ้านระวังน้ำท่วม ถ้ามีการแจ้งเตือนล่วงหน้าความเสียหายอาจจะมีไม่มาก อีกอย่างหนึ่งโดยส่วนชาวบ้านเองคิดว่าน้ำคงไม่ท่วม เพราะไม่มีฝนตกพอที่น้ำจะท่วมได้

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง