สังเวยมติสะเอียบ เชิญตัวเจ้าหน้าที่บริษัทที่ปรึกษา 2 บริษัท ออกนอกพื้นที่

fas fa-pencil-alt
fas fa-calendar
13 ตุลาคม 2555

สะเอียบ แพร่ /// วันนี้ (13 ตุลาคม 2555) เมื่อเวลา 12.00 น. ชาวบ้านตำบลสะเอียบกว่า 100 คน ได้รวมตัวกันที่อุทยานแห่งชาติแม่ยม อ.สอง จ.แพร่ เชิญคณะที่ปรึกษาบริษัทอิตาเลี่ยน-ไทย ออกนอกพื้นที่ ซึ่งนำโดยนายนภดล พฤกษะวัน และคณะอีก 7-8 คน ได้นำรถแวนอีซูสุ 4 ประตูเลขทะเบียน วฉ 5106 กรุงเทพมหานคร สีบรอนเงิน และรถโตโยต้า วีโก้ สีบรอนเงิน เลขทะเบียน ตง 3156 กรุงเทพมหานคร พร้อมสำพาระหลังรถ โดยนายนภดล ได้อ้างว่าตนและคณะมาจากสำนักอุทยานแห่งชาติ กรุงเทพฯ มาเพื่อหาข้อมูลสภาพป่าสักทองแก่งเสือเต้นว่ามีจริงหรือไม่ เพราะจากรายงานการศึกษาที่ผ่านๆ มา ระบุว่าไม่มีป่าสักทองแล้ว ตนและคณะจะได้นำข้อมูลข้อเท็จจริงสภาพป่าในปัจจุบันไปรายงานให้คณะอนุกรรมการวุฒิภาที่มีนาย วิเชียร คันฉ่อง เป็นประธาน แต่จากการตรวจสอบพบว่า นายนภดล เป็นเจ้าหน้าที่กรมอุทยานที่เกษียณอายุราชการแล้ว ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาบริษัทอิตาเลี่ยน-ไทย

 จากการพูดคุยกันชาวบ้านสะเอียบได้ชี้แจงว่าสภาพป่าสักทองกว่า 24,000 ไร่ที่ชาวบ้านร่วมกันรักษามาจนถึงปัจจุบันได้รับการยืนยันจากหัวหน้าอุทยานแม่ยมแล้วว่าสภาพป่าสักทองแก่งเสือเต้น ยังมีความอุดมสมบูรณ์และหนาแน่นยิ่งกว่าเดิม และสื่อมวลชนทุกแขนงก็ได้มาพิสูจน์แล้วหลายต่อหลายครั้ง ก็ยืนยันว่าป่าอุดมสมบูรณ์ ปัจจุบันมีมูลค่าเฉพาะเนื้อไม้สักทองไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท หากคณะฯมีความจริงใจก็ควรจะรับรู้ข้อมูลส่วนนี้อีกทั้งทางอุทยานแห่งชาติแม่ยม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก็ยืนยันชัดเจนแล้วจึงขอเชิญคณะที่มาออกจากพื้นที่โดยเร่งด่วน

นายสมมิ่ง เหมืองร้อง ประธานคณะกรรมการคัดค้านเขื่อน 4 หมู่บ้าน ต.สะเอียบ กล่าวว่า “สถานการณ์ปัจจุบันชาวบ้านสะเอียบมีความตึงเครียดมาก จากการที่ประธาน กบอ. นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประกาศต่อสาธารณะแล้วว่าจะต้องสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นให้ได้ ชาวบ้านจึงต้องหวาดระแวงคนแปลกหน้าเป็นธรรมดา ตนจึงขอให้ทุกหน่วยงานที่จะมาหาข้อมูล มาหาผลประโยชน์จากเขื่อนแก่งเสือเต้น เขื่อนยมบน เขื่อนยมล่าง ได้ยุติการเข้ามาในพื้นที่ เพราะอาจเกิดปัญหาขึ้นมาได้ ชาวบ้านเป็นร้อยคุมยากหากเกิดความรุนแรงขึ้นจะมาหาว่าชาวบ้านป่าเถื่อนไม่ได้ เพราะเราได้ประกาศเตือนไปหลายครั้งแล้ว”

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเอียบ ได้นำขบวนคณะของนายนภดล พฤษะวัน ออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ยม เพราะชาวบ้านสะเอียบ อีกจำนวนมากได้จอดรถตามรายทางเป็นจำนวนมาก หวั่นว่าจะเกิดอันตรายต่อคณะฯได้

 ในวันเดียวกัน เวลา 14.30 น. ได้มีคณะของนายถาวร บุญราศี เป็นชาย 2 คน ผู้หญิง 1 คน จากบริษัทที่ปรึกษา บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด ได้เดินทางด้วยรถตู้ โตโยต้าแกรนเวีย เลขทะเบียน ภม 9637 กรุงเทพมหานคร สีบรอนทอง เข้ามาในหมู่บ้านดอนชัยหมู่ 1 ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ชาวบ้านสะเอียบได้เข้าไปสอบถามนายถาวร บอกว่ามาเยี่ยมลุงที่หมู่บ้านนี้ เอาขนมมาฝากหลาน ชาวบ้านเห็นผิดสังเกต จึงประกาศหอกระจายข่าวชุมชน ให้ชาวบ้านมารวมตัวกันที่วัด ชาวบ้านกว่า 300 คน ได้เข้าไปล้อมรถของนายถาวร และเชิญให้ออกนอกพื้นที่ เพราะชาวบ้านจำหน้านายถาวรได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัท ปัญญา คัลซัลแตนท์ ชาวบ้าต่างตะโกนด่าทออย่างเสียหาย จนตำรวจ สภ.สะเอียบ ต้องนำตัวนายถาวรและคณะออกจากพื้นที่ โดยทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที

 นายวิชัย รักษาพล แกนนำกลุ่มราษฎรรักษ์ป่า ต.สะเอียบ กล่าวว่า “เราได้เตือนนายถาวรแล้ว ว่าอย่าเข้ามาในพื้นที่ เพราะช่วงนี้ชาวบ้านมีมติห้าม บุคคล เจ้าหน้าที่ หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับเขื่อนแก่งเสือเต้น เขื่อนยมบน เขื่อนยมล่าง เข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด ครั้งนี้ถือว่าเป็นการเตือน ครั้งต่อไปชาวบ้านคงไม่เชิญออกนอกพื้นที่ แต่อาจเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ เพราะชาวบ้านเคยทุบรถธนาคารโลกมาแล้ว เนื่องจากห้ามแล้วยังเข้ามาอีก” นายวิชัยกล่าว

ด้านนายชาติชาย ธรรมโม กลุ่มเยาวชนตะกอนยม ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนลูกหลานชาวบ้านในพื้นที่ ต.สะเอียบ กล่าวว่า “เสียงตะโกน ก่นด่า ของชาวบ้าน ต.สะเอียบ คงเป็นสัญญาณเตือนภัยแห่งความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากรัฐบาลยังไม่ยอมใช้เหตุผลในการตัดสินใจ ชาวบ้านสะเอียบคงต้องใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งมิอาจคาดเดาได้ ชาวบ้านชุมชนสะเอียบตั้งถิ่นฐานอยู่มากว่า 200 ปี หากหากชุมชนจะแตกสลายเพราะเขื่อน ก็คงไม่แปลกที่พวกเราจะลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของพวกเรา อีกทั้งรัฐธรรมนูญไทยยังไห้สิทธิในการปกป้องชุมชน ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นของคนไทย และคนทั้งโลก อย่างเต็มที่” นายชาติชาย ธรรมโม กล่าว


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง