สมัคร สั่งกระทรวงทรัพย์สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นให้สำเร็จ

fas fa-pencil-alt

ไอเอ็นเอ็น นิว 

fas fa-calendar

5 มิถุนายน 2551 

นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ รณรงค์สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นให้สำเร็จ ด้าน "อนงค์วรรณ" รับลูกเตรียมเรียกประชุมขานรับสัปดาห์หน้า 


 นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในระหว่างการเปิดงานวันสิ่งแวดล้อมโลก ที่มีผู้ร่วมงานกว่า 2,000 คนว่า ตนเห็นด้วยกับการรณรงค์เรื่องโลกร้อน เพราะที่นักวิทยาศาสตร์บอกว่าน้ำแข็งขั้วโลกละลาย ก็เห็นว่าเป็นความจริง ขณะที่ล่าสุด นายสมิทธ ธรรมสโรช ที่ปรึกษาศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติเตือนว่าอีก 3-4 เดือนข้างหน้าน้ำทะเลจะสูงขึ้นจนมาท่วม กทม.เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก ซึ่งตนก็ติดตามจากกรมอุตุนิยมวิทยาและพบตอนนี้ยังปกติดี แต่ก็ไม่ได้ละเลยคำเตือนดังกล่าว ซึ่งตนและรัฐบาลสนับสนุนมาตรการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการปลูกต้นไม้ รวมถึงการสร้างเขื่อน เพราะช่วยสามารถนำพลังน้ำไปผลิตกระแสไฟฟ้าโดยไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเห็นตัวอย่างที่ดีแล้วจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ แต่ยุคนี้การสร้างเขื่อนทำได้ยาก เพราะเอ็นจีโอทั้งหลายออกมาประท้วง ทำให้เขื่อนในลุ่มแม่น้ำยมหรือแก่งเสือเต้นยังเกิดไม่ได้ เพราะอ้างว่ามีป่าสักทอง 50,000 ไร่ที่สมบูรณ์ และมีนกยูง 3 ตัว ทั้งที่ป่าสักตอนนี้ก็เอาไปปลูกเป็นบ้านเรือนกันหมดแล้ว 


 ดังนั้น การรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อมสามารถทำได้แต่ให้พอสมควรแก่เหตุ เพื่อให้สามารถมีความเจริญและการพัฒนาได้บ้าง ซึ่งในเรื่องเขื่อนนี้ ขอให้กระทรวงทรัพยากรฯ รณรงค์ทำเขื่อนในลุ่มน้ำยมให้สำเร็จ เพื่อแก้ปัญหาการเกษตร น้ำท่วมและนำมาผลิตไฟฟ้า และจะช่วยให้พื้นที่ 32 จังหวัดภาคกลางได้ประโยชน์ด้วย 


 นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า จะเรียกประชุมผู้บริหารเรื่องการสร้างเขื่อนในลุ่มน้ำยมอย่างเร่งด่วน เพื่อศึกษาถึงผลดีผลเสีย และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งตนคิดว่ามีความจำเป็นสำหรับประชาชนมาก เพราะที่ผ่านมาในช่วงฤดูน้ำหลากน้ำท่วมหนักทุกปี แต่ยังยืนยันไม่ได้ว่าจะผลักดันให้สำเร็จในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นที่ลุ่มน้ำยมมีการศึกษามาแล้ว 30 ปี และได้รับการต่อต้านจากกลุ่มเอ็นจีโอที่ไม่เห็นด้วยมาโดยตลอด แต่สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันเชื่อว่ากระแสการต่อต้านน่าจะน้อยลง 


 นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระบุว่าการสร้างเขื่อนจะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มาก เพราะจะมีพลังงานน้ำไปผลิตกระแสไฟฟ้าได้นั้น เป็นการรู้ข้อมูลเพียงมิติเดียวเท่านั้น และไม่ได้รู้จริงทำให้อธิบายประโยชน์ของเขื่อนแบบคนที่รู้ข้อมูลมาไม่ครบ ซึ่งหากจะบอกว่าเขื่อนลดก๊าซได้จริง เนื่องจากในระหว่างที่สร้างเขื่อนก็ต้องตัดต้นไม้จำนวนมาก และระหว่างที่เก็บน้ำก็มีการปล่อยก๊าซมีเทนที่มาทับถมเป็นตะกอนในเขื่อนเช่นกัน แต่ตรงนี้อาจไม่ใช่ประเด็นใหญ่เท่ากับการประกาศว่าผู้ที่คัดค้านโครงการ คือคุณพ่อเอ็นจีโอ เพราะสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้สนใจที่จะเอาเครือข่ายเอ็นจีโอหรือชาวบ้านที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมเข้ามา เป็นพันธมิตรในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า และการสร้างความตระหนักอย่างแท้จริง 


 ทั้งนี้อยากเชิญนายกรัฐมนตรีไปดูพื้นที่ให้เห็นกับตาอีกสักครั้งว่าป่าสักที่เหลือน้อย เหลือนกยูงที่มี 3 ตัวจริงหรือไม่


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง