"สมัคร" เอาแน่! สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น

fas fa-pencil-alt

โพสต์ทูเดย์

fas fa-calendar

5 มิถุนายน 2551

นายกรัฐมนตรี เล็งฟื้นเขื่อนแก่งเสือเต้น รับวันสิ่งแวดล้อมโลก อ้างเพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม-เกษตรกรรมและผลิตไฟฟ้า ด้าน "อนงค์วรรณ"ขานรับทันควัน เรียกประชุมสัปดาห์หน้า


 นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวในงานวันสิ่งแวดล้อมโลก โดยระบุ ในตอนหนึ่งว่า รัฐบาลสนับสนุนกิจกรรมที่มีส่วนช่วยลดวิกฤตโลกร้อน โดยจะผลักดันให้มีการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นให้เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งพลังงานที่ไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้วยังช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ภาคกลาง 32 จังหวัด สร้างแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร และแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย 


 "การทำพลังงานไฮโดรด้วยการสร้างเขื่อนดีแน่ๆ ดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมเป็นคนสนับสนุนเขื่อน เขื่อนภูมิพลใช้มาถึงปัจจุบัน 44 ปี ดีทุกอย่างเคราะห์ดีที่สร้างก่อนไอ้พวกปลุกระดมเอ็นจีโอทั้งหลายจะเกิด" นายสมัคร กล่าว และว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับที่ 31 ของโลก และเป็นอันดับ 4 ของอาเซียน โดยมาจากภาคอุตสาหกรรม 50%, ภาคเกษตรกรรม 23%, ภาคป่าไม้ 17% และประชาชนทั่วไป 10% 


 นอกจากนี้ รัฐบาลยังส่งเสริมการใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน อี 85, รณรงค์การใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก, ปรับเปลี่ยนหัวจักรรถไฟเป็นรถไฟฟ้า เป็นต้น 


 ด้าน นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จะเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเขื่อนในลุ่มน้ำยมอย่างเร่งด่วน ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่ามีความจำเป็นต่อประชาชน เพราะที่ผ่านมาในช่วงฤดูน้ำหลากจะเกิดปัญหาน้ำท่วมหนักทุกปี แต่หากมีการก่อสร้างเขื่อนจะสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ ซึ่งโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นมีการศึกษามาแล้ว 30 ปีและได้รับการต่อต้านจากกลุ่มเอ็นจีโอที่ไม่เห็นด้วยมาโดยตลอด แต่สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันเชื่อว่ากระแสต่อต้านน่าจะน้อยลง 


 "ในการประชุมผู้บริหารทส.สัปดาห์หน้าจะมีการหยิบยกการสร้างเขื่อนที่ลุ่มแม่นำยม กลับมาหารือเพื่อศึกษาผลดีผลเสีย เพราะได้ศึกษาเรื่องพื้นที่ และผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นเอาไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม หากมีการตัดสินใจสร้างเขื่อน ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าต้องสร้างเมื่อไหร่ก็ต้องพิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่ด้วย" นางอนงค์วรรณ กล่าว


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง