'สมัคร'ปลุกผีเขื่อนแก่งเสือเต้น ด่า'เอ็นจีโอ'พวกบ้าขัดขวาง

fas fa-pencil-alt

กรุงเทพธุรกิจ

fas fa-calendar

5 มิถุนายน 2551

"สมัคร"ระบุเห็นด้วยสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นในวันสิ่งแวดล้อมโลก เพราะลดก๊าซคาร์บอนช่วยแก้วิกฤติโลกร้อนแล้ว ยังเป็นประโยชน์แก้ปัญหาน้ำท่วม ด่ากราดคุณพ่อเอ็นจีโอ"ไอ้พวกบ้าโผล่เข้ามา"ถึงวันนี้ 30 ปีแล้ว ยังสร้างไม่ได้ 


 กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี - นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดงานวันสิ่งแวดล้อมโลก โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า วันสิ่งแวดล้อมโลกปีนี้ทาง UNEP กำหนดคำขวัญว่า CO 2 Kick the Habit Towards a Low Carbon Economy และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแปลและใช้ภาษาไทยว่าลดวิกฤติโลกร้อน เปลี่ยนพฤติกรรมปรับแนวคิดสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ซึ่งถ้าตนเป็นคนแปลก็จะใช้คำว่า" ลดวิกฤติโลกร้อน ลดใช้คาร์บอนดีกว่า " อย่างไรก็ตามตนเห็นด้วยกับที่ทุกฝ่ายต้องรวมมือกัน เพราะจากที่มีการสำรวจเรื่องน้ำแข็งขั้วโลกละลาย และมีคำขู่ออกมาระวังน้ำ จะท่วมโลกซึ่งตนเห็นว่ามันมีเหตุผล นายสมิท ธรรมสโรช ผู้เชี่ยวชาญด้านภัยธรรมชาติเองก็ออกมาเตือนเช่นกัน และบอกว่าอีก 3-4 เดือนข้างหน้า น้ำทะเลจะขึ้นสูงและทำให้เกิดน้ำท่วมได้ เรื่องนี้ตนก็คอยติดตามดูอยู่ ซึ่งในพื้นที่อื่นตนไม่ทราบแต่สำหรับของเราถือว่ายังปกติอยู่ แต่ไม่ได้ละเลยเรื่องการเตือนภัย 


 นายสมัคร กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการกล่าวหาว่าประเทศไทยสร้างก๊าซเรือนกระจกให้เกิดขึ้นกับโลกในลำดับที่ 31 ก็ไม่ทราบว่ามีการวัดกันอย่างไร ซึ่งก็คงดูจากจำนวนรถ โรงงานอุตสาหกรรม บ้านเรือนและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเท่ากับเป็นการชี้วัดว่าประเทศไทยมีความเจริญค่อนข้างมากถึงได้เกิดปัญหาดังกล่าว แต่หัวโจกจริงๆ ในก็เห็นจะเป็นประเทศสหรัฐฯ ที่มีความเจริญมากแต่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ อย่างทั่วโลกประชุมกัน และมีข้อตกลงออกมาแต่สหรัฐฯ บอกไม่ยอม 


 อย่างไรก็ตาม สำหรับตนเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าขณะนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเมื่อคำนวนจาก 100 % แยกเป็นคนธรรมดา 10 % ภาคอุตสาหกรรมนั้นสร้างมลพิษถึง 50% เกษตรกรรม 23% ป่าไม้ 17% ซึ่งรัฐบาลก็ได้ดำเนินการเร่งแก้ไข และพร้อมสนับสนุนวิธีแก้ สิ่งที่แรกที่ตนเห็นด้วยคือการปลูกต้นไม้ แต่คงหลีกเลี่ยงไม่ได้กับสิ่งจำเป็นบางอย่างที่เราต้องใช้ 


 นายสมัคร กล่าวว่า ที่ญี่ปุ่น มีการคิดปลูกต้นไม้โตเร็ว เพื่อเอามาเผาเป็นถ่านในอุณหภูมิที่พอเหมาะ แล้วจะได้น้ำมันดีเซลออกมา แต่ก็เป็นการขัดกับหลักของสหประชาชาติไม่สามารถทำได้ ส่วนตัวเห็นว่าการสร้างเขื่อนเป็นหนทางที่ดี เพราะนอกจากจะลดการสร้างคาร์บอนแล้ว ก็ยังเป็นประโยชน์ทั้งการแก้ปัญหาน้ำท่วม การช่วยเหลือเกษตรกร หรือ แม้แต่การเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งตนสนับสนุนการสร้างเขื่อนเต็มที่ เพราะเห็นว่ามีประโยชน์มากกว่าโทษ อย่างเขื่อนภูมิพลที่สร้างมาก็มีประโยชน์และดีทุกอย่าง เมื่อก่อนฝนตกลงมาไม่มีเขื่อนกั้น ถึงนครสวรรค์น้ำก็ท่วม จนถึงกรุงเทพฯ เกษตรกรปลูกข้าวได้ครั้งเดียว ซึ่งแต่เดิมประชากรเรามีไม่มากก็พอ แต่ตอนนี้เรามีประชากร 63 ล้านคนปลุกข้าวครั้งเดียวแค่กินก็ไม่พอแล้ว จึงมีการคิดเรื่องเขื่อนขึ้นมา ซึ่งถือว่าเคราะห์ดีว่าสร้างก่อนที่พวกปลุกระดม พวกเอ็นจีโอจะเกิดขึ้นมา จากนั้นก็มีการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ขึ้นมา รองรับน้ำจากแม่น้ำปิง วัง 


 "แต่แม่น้ำยมตอนนี้ฝนตกลงมาน้ำก็ท่วม โดยเฉพาะที่จังหวัดสุโขทัย น้ำท่วมตลอด พอคิดจะสร้างเขื่อน ก็มีการปลุกระดมว่าสร้างไม่ได้ โดยมีการอ้างว่ามีไม้สักทอง 5 หมื่นต้น จะต้องไปอยู่ก้นอ่าง ถ้าสร้างเขื่อนจริง ที่สำคัญก็มีนกยูงอยู่ 3 ตัว ถ้าสร้างเขื่อนกยูงก็จะตาย ซึ่งถ้ามันโง่อย่างนั้นก็ไม่สมควรจะเป็นนกยูงแล้ว ทำไมไม่ตรวจดูว่า ทุกอย่างที่อ้างนั้นมันมีจริงหรือไม่ เพราะปัจจุบันไม้สักทอง ที่อ้างกันนั้น มันเอาไปปลูกบ้านกันหมดแล้ว รณรงค์จะสร้างแล้วทะเลาะกัน กินเวลามา 17 ปี ถึงวันนี้ผ่านมา 30 ปี แล้วยังสร้างไม่ได้ เพราะทุกคนต้องคารวะคุณพ่อเอ็นจีโอ คุณพ่อบอกสร้างไม่ได้ทุกคน ก็กลัวคุณพ่อกันหมด แล้วเป็นอย่างไรวันนี้น้ำก็ยังท่วมอยู่ คอยนั่งดูว่าวันนี้น้ำจะท่วมถึงไหน คิดถึงกับจะไปขุดทะเลหลวงทำแก้มลิง ทั้งๆที่แค่สร้างเขื่อนกั้นลุ่มน้ำตรงกันก็เก็บน้ำข้างบนไว้ได้ 1,200 ล้าน ลบ.เมตร ใต้ลงมาอีก 800 ล้านก็ไม่ท่วม มันเป็นประโยชน์มากดูตัวอย่างได้จากเขื่อนภูมิพล ที่เมื่อสร้างขึ้นมาน้ำไม่ท่วม เพราะต้องมีการปล่อยเพื่อทำไฟฟ้า ทำการเกษตร การสร้างเขื่อนทำให้น้ำมีตลอดปี แต่วันนี้แม่น้ำยมยังมีปัญหา เพราะยังสร้างเขื่อนไม่ได้ เพราะมีไอ้พวกบ้าโผล่เข้ามา เพื่อนบ้านอย่างประเทศลาวมีเขื่อนขนาดใหญ่ 3 เขื่อน คือเขื่อนน้ำงึม เขื่อนน้ำเทิน 1 และ 2 สามารถสร้างประโยชน์ได้มากมายลาวสร้างเขื่อนได้ เพราะไม่มีคุณพ่อเอ็นจีโอเหมือนเรา แต่ไทยทำอะไรไม่ได้ และที่ตนพูดก็เพื่อชี้ให้เห็นว่าเราสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องคาร์บอนได้จากการมีเขื่อน 


 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาอยู่หลายด้าน ทั้งการเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 26 องศา การส่งเสริมใช้รถยนต์ อี 85 ส่งเสริมให้ขับรถความเร็ว 90 ก.ม.ต่อชั่วโมง ส่งเสริมให้หน่วยราชการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งในการปฏิบัติจริงอาจมีปัญหาบ้าง เช่นเดียวกับการต่อต้านการใช้ถุงพลาสติก ซึ่งในความเป็นจริงหากไปตลาดอยากซื้อแกงกลับไปกินบ้านก็ทำไม่ได้ เพราะถุงผ้าใส่แกงไม่ได้ จะพกกล่องพลาสติกก็ผิด แล้วจะให้พกหม้อไปตลาดหรืออย่างไร เวลาออกจากบ้านต้องยกหม้อใส่รถไปด้วย อย่างนี้มันก็อาจจะเกินไป

อ้างอิง : http://www.bangkokbiznews.com/2008/06/05/news_264229.php

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง