เตรียมยื่นเรื่องให้กสม.ตรวจสอบสวนกล้วยหอมจีน ภาคประชาชนหวั่น “เขียวสยอง”

fas fa-pencil-alt
สำนักข่าวชายขอบ
fas fa-calendar
29 มีนาคม 2559

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา ผู้ประสานงานเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่สวนกล้วยหอมริมแม่น้ำอิงที่ตำบลเม็งราย อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงรายว่า แม้พื้นที่ปลูกกล้วยเป็นพื้นที่เอกชน แต่ก็เป็นแปลงใหญ่ ใช้ปริมาณน้ำมากจนลำน้ำน้ำอิงบริเวณนั้นแห้งขอด ชาวบ้านและภาครัฐจึงมีมติให้ยุติการสูบน้ำไปใช้ในสวนกล้วย นอกจากนี้ชาวบ้านยังมีข้อกังวลเรื่องการใช้สารเคมีในแปลงกล้วย รวมถึงการขยายพื้นที่ปลูกกล้วย โดยชุมชนต้องการให้มีการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ซึ่งความรู้สึกของชาวบ้านเดิมคิดว่าปลูกกล้วยทั่วๆ ไป แต่กลับกลายเป็นการปลูกโดยใช้สารเคมีเข้มข้นแบบจีน ซึ่งเป็นกระบวนการทั้งหมดเหมือนกับที่ปลูกกล้วยจีนในลาว ทำให้ชาวบ้านจึงรู้สึกตกใจมากเพราะรับรู้ผลกระทบในลาวที่เกิดขึ้นแล้ว

นายสมเกียรติกล่าวว่า จำเป็นที่หน่วยงานต่างๆ ต้องเร่งลงมาดูการใช้ที่ดินในลุ่มน้ำอิง เพราะที่ผ่านมามีการกว้านซื้อที่ดินเป็นจำนวนมาก แม้แปลงกล้วยเป็นแปลงเอกชนแต่นับเป็นแปลงใหญ่ และจะขยายไปที่อำเภอขุนตาลด้วย จึงเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ หากเป็นเกษตรเคมีเข้มข้นแบบนี้จะส่งผลกระทบต่อสาธารณะ ซึ่งบริเวณเหนือหมู่บ้านที่มีแปลงกล้วย ชาวบ้านบ้านต้าน้ำอิงได้กำหนดเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์ปลาและพื้นที่อนุรักษ์ ที่สำคัญคือลำน้ำอิงบริเวณนี้เป็นแหล่งน้ำประปาช่วงหน้าแล้งของเทศบาลตำบลต้า ที่นำรถสูบน้ำมาขนน้ำไปบรรเทาปัญหาในช่วงแล้ง เป็นน้ำอุปโภคบริโภค จนมารู้ว่ามีสวนกล้วยขนาดใหญมาตั้งอยู่

“เร็วๆ นี้ชาวบ้านจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม.เข้าตรวจสอบ เนื่องจากส่งผลกระทบโดยตรงต่อชาวบ้าน แม้การปลูกกล้วยถูกมองจากบางคนเป็นเรื่องธรรมดา แต่จริงๆ แล้วกระบวนการผลิตครั้งนี้ไม่ธรรมดา เพราะมีการใช้น้ำและสารเคมีจำนวนมาก และนโยบายของจังหวัดเชียงรายก็ต้องการให้เป็นพื้นที่สีเขียว แต่ไม่ใช่เขียวสยองเช่นนี้” นายสมเกียรติกล่าว

 

อ้างอิง : https://transbordernews.in.th/home/?p=12189

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง