แถลงการณ์ ฉบับที่ 9 และ 10
สดุดีดวงวิญญาณพ่อเฒ่านักสู้แห่งลุ่มน้ำมูลผู้สังเวยชีวิต ให้เขื่อนราษีไศลและรัฐบาลอับปรีย์ ชวน หลีกภัย
การชุมนุมต่อสู้ของสมัชชาคนจน ในนามหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน ๒-๓ ผู้ได้รับผลกระทบจากสร้างเขื่อนราษีไศลภายใต้โครงการ โขง-ชี-มูล อันอัปยศ ได้แสดงจุดยืนต่อการฟื้นฟูธรรมชาติลุ่มน้ำมูนคือการเรียกร้องให้กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานเปิดประตูระ บายน้ำออกจากเขื่อน คืนความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ป่าบุ่ง-ป่าทาม พันธุ์สัตว์น้ำ และเพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริงว่าชาวบ้านมี สิทธิทำกินในป่าบุ่ง ป่าทามมาหลายร้อยปี โดยรัฐบาลชวน หลีกภัย กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน และมีนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ ไม่เคยลงมาตรวจสอบความจริงในพื้นที่ มีแต่การกล่าวหาหมิ่นประมาทชาวบ้านทางสื่อมวลชนมาโดยตลอดและปัจจุบันผลกระทบที่ เกิดขึ้นจะชัดเจนมากขึ้นตามที่ชาวบ้านเคยประท้วงก่อนการสร้างเขื่อน เช่น กรณีดินเค็มแพร่กระจายรอบอ่างเก็บน้ำ สร้างความ เสียหายให้กับการเกษตร ความสมบูรณ์ของป่าทามกว่า 50,000 ไร่ได้หมดสิ้นไป แต่รัฐบาลกลับพยายามยัดเยียดข้อกล่าวหา บิดเบือน ข้อเท็จจริงและใช้ความรุนแรงกับชาวบ้านมาโดยตลอด
การชุมนุมบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนราษีไศล เป็นเวลากว่า 10 เดือน และรัฐบาลยังไม่มีท่าทีใดๆ ต่อการแก้ไขปัญหา ล่าสุดในคืนวันที่ 20 พฤษภาคม 2543 เวลา 02.00 น. พ่อใหญ่โฮม บุญยงค์ ได้จมน้ำเสียชีวิตเนื่องจากการกักเก็บน้ำจนท่วมหลังคาบ้านในที่ชุมนุมอ่างเก็บ น้ำเขื่อนราษีไศล นับเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของสมัชชาคนจนที่มีชาวบ้านเสียชีวิตแล้ว 15 คน จากการเข้าร่วมการชุมนุม ประท้วงในโครงการต่างๆของรัฐ ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา
สมัชชาคนจน ขอประณามการกระทำที่โหดร้าย ป่าเถื่อนในทุกรูปแบบ เช่น กักเก็บน้ำในอ่างเก็บน้ำราษีไศล เพื่อให้ชาวบ้านสลาย การชุมนุมประท้วง การสร้างเขื่อนต่างๆที่ทำลายทรัพย์สิน ที่ดินทำกิน อาชีพ วัฒนธรรม ประเพณี ชุมชนต่างๆที่เคยพึ่งพาธรรมชาติ และขอเรียกร้องต่อรัฐบาล ผู้รักความเป็นธรรมทั้งมวลและสื่อมวลชน ดังต่อไปนี้
1.รัฐจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนที่ชุมนุมเรียกร้องอยู่บนสันเขื่อนปากมูลและสันเขื่อนราษีไศล โดยอาศัยข้อมูล ทางวิชาการที่เป็นที่ยอมรับของสาธารณชนอย่างเร่งด่วน
2.ยุติการกระทำใดๆก็ตามที่จะเป็นการทำลายชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้านที่ชุมนุมอย่างสันติวิธีบนสันเขื่อนปากมูลและสันเขื่อน ราษีไศล
3.สมัชชาคนจนหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน1-7 ใน 3 จังหวัด คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และ ชัยภูมิ จะยืนหยัดต่อสู้อย่างสันติวิธีต่อไป แม้จะต้องถูกปราบปรามด้วยความรุนแรงจากรัฐบาล
4.สมัชชาคนจนจะสืบทอดเจตนรมย์วีรชนผู้พลีชีพเพื่อความเป็นธรรมทั้งมวล
ด้วยจิตคารวะ
สมัชชาคนจน
หมู่บ้านแม่มูน1,7 เขื่อนปากมูล จ.อุบล
หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน2,3 เขื่อนราษีไศล จ.ศรีสะเกษ
22 พฤษภาคม 2543
แถลงการณ์ ฉบับที่ 10
รัฐบาลใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม
จากการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ โดย นายธนากร พิทยากร ได้แจ้งความไว้ที่ สภอ.สิรินธร กับร้อยตำรวจเอกชนะสมบูรณ์ เพ็ญพิตต์ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2543 ให้ดำเนินคดีกับแกนนำ 14 คน ของสมัชชาคนจน ทั้งหมด 7 ข้อกล่าวหา โดยข้อกล่าวหาที่สำคัญคือระบุ ว่าเป็นการกระทำอันเป็นซ่องโจร
สมัชชาคนจน ขอประณามการใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรมของรัฐ ดังต่อไปนี้
1.รัฐบาล โดยนายชวน หลีกภัย ได้สลายการชุมนุมของชาวบ้านที่คัดค้านการสร้างเขื่อนปากมูล เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2536 โดยมีชาว บ้านได้รับบาดเจ็บกว่า 30 คน และถูกจับกุมดำเนินคดีจนถึงปัจจุบัน 2 คน
2.รัฐบาล โดยนายชวน หลีกภัย ได้สลายการชุมนุมของชาวบ้านที่เรียกร้องความเป็นธรรมจากการสร้างเขื่อนสิรินธร เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2537 โดยมีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บกว่า 50 คน และถูกจับกุมดำเนินคดี จนถึงปัจจุบัน 12 คน
3.รัฐบาล โดยนายชวน หลีกภัย ได้อนุญาตให้มีการระเบิดแก่งหินต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ เป็นความยาวกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า
4.รัฐบาล โดยนายชวน หลีกภัย ได้ทำลายทรัพย์สิน ที่ดินทำกิน อาชีพ ชุมชน วัฒนธรรม ประเพณี ที่สืบทอดยาวนานมาหลายร้อยปี ของชุมชนลุ่มน้ำมูน
จากพฤติกรรมดังกล่าวกลับไม่มีกฏหมายฉบับใดภายใต้รัฐไทยที่จะจัดการกับผู้กระทำผิด ตรงกันข้ามผู้ที่เรียกร้องต่อสู้เพื่อความถูกต้อง และเป็นธรรมกลับถูกใส่ร้ายป้ายสี ถูกประทุษร้าย ถูกจับกุมดำเนินคดี ในข้อหาต่างๆ ตามอำเภอใจของรัฐผู้กล่าวหา
สมัชชาคนจนขอเรียกร้องให้สภาทนายความ ชมรม สมาคม นักกฎหมาย ผู้รักความเป็นธรรมทั้งปวงให้ร่วมกันกดดันรัฐบาลให้ กลับมาใช้กฎหมายที่เที่ยงธรรม ไม่ใช่รัฐเผด็จการที่เลือกใช้กฎหมายบางฉบับเป็นอาวุธในการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติไปจาก ประชาชนในท้องถิ่นและปราบปรามประชาชนผู้คัดค้าน
อนึ่งสมัชชาคนจนขอประกาศว่า ถ้าจะจับก็ขอให้จับประชาชนผู้เข้าร่วมชุมนุมประท้วงอย่างสันติวิธีทั้งหมดโดยจะได้มีการลงชื่อ ร่วมกันทั้งหมดที่หน้าโรงไฟฟ้าเขื่อนปากมูล และนำรายชื่อนี้เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีในวันต่อไป
ด้วยจิตคารวะ
สมัชชาคนจน หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน 1,7 เขื่อนปากมูล
22 พฤษภาคม 2543