แถลงการณ์กรณีเขื่อนราษีไศลฉบับที่ 32
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 14.00 น. ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและ สิ่งแวดล้อมได้เข้าพบปะกับสมัชชาคนจนกรณีปัญหา เขื่อนราษีไศลซึ่งชุมนุมกันที่สันเขื่อนราษีไศล เพื่อรับฟังข้อมูลแต่ปรากฏว่า ดร.อาทิตย์ได้เสนอให้มีการเจรจาร่วมกับทุกกลุ่มที่มีการเรียกร้องกรณีเขื่อน ราษีไศล สมัชชาคนจนขอปฏิเสธข้อ เสนอดังกล่าว ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1.สมัชชาคนจนเห็นว่าข้อเรียกร้องของสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนราษีไศลเป็นข้อเรียกร้องเพื่อประโยชน์ สาธารณะ มิใช่ข้อเรียกร้องเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งแตกต่างกับข้อเรียกร้องของกลุ่มอื่น ๆ การที่นำผู้ ชุมนุมทุกกลุ่มมาเจรจาพร้อมกันจึงมิก่อให้เกิดผลดีแต่ประการใด กลับจะยิ่งทำให้เกิดความแตกแยก ระหว่างกลุ่มต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังจะทำให้ข้อเรียกร้องของสมัชชาคนจนถูกเบี่ยงเบนกลายเป็นการ เรียกร้องเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ได้ง่าย
2.สมัชชาคนจนขอยืนยันว่า กรณีการชุมนุมที่เขื่อนราษีไศลเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยน้ำออกจากเขื่อน เนื่อง จากเขื่อนราษีไศลไร้ประโยชน์และยังก่อให้เกิดปัญหาดินเค็มแพร่กระจาย และสมัชชาคนจนต้องการให้ ฟื้นฟูป่าบุ่งป่าทามแม่น้ำมูลและชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้กรณีปัญหาสมัชชาคนจนเขื่อนราษีไศล เป็น 1 ใน 16 กรณีปัญหาที่มีคณะกรรมการกลางที่รัฐบาลแต่งตั้งอยู่แล้ว ดังนั้นสมัชชาคนจน จึงต้องการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ ฯ รอฟังผลการสรุปของคณะกรรมการกลางที่รัฐบาลตั้งขึ้นมา
อนึ่งเนื่องสมัชชาคนจนจะนำเสนอกรณีเขื่อนราษีไศลเข้าสู่วาระการประชุมของคณะกรรมการซึ่งจะมี ขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2543 นี้ เป็นกรณีเร่งด่วน
ในระหว่างการรอฟังผลการประชุมของคณะกรรมการกลาง สมัชชาคนจนจะดำเนินการขุดคันดินที่ถม กั้นแม่น้ำมูลเพื่อให้แม่น้ำมูลไหลตามธรรมชาติต่อไป เนื่องจากสมัชชาคนจนเห็นว่า การกักเก็บน้ำของ เขื่อนราษีไศลนั้นมิได้ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด อีกทั้งยังก่อให้เกิดการกระจายของดินเค็มและเป็น การทำลายป่าบุ่งป่าทามและท่วมที่ดินของชาวบ้าน หนทางเดียวที่จะแก้ปัญหานี้คือ การทุบเขื่อนทิ้งตาม ที่นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รมช.กระทรวงวิทยาศาตร์เสนอไว้หรือไม่ก็เปิดประตูระบายน้ำออกจากเขื่อน ให้หมด