แถลงการณ์
สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน
STOP GLOBAL WARMING ASSOCIATION
เรื่อง รัฐบาลและกฟผ.ต้องรับผิดชอบกรณีเกิด “ฝนกรด” ทำลายพืชผลชาวบ้านที่แม่เมาะ
ตามที่เกิดกรณีพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลนาสัก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เกิดความเสียหาย อันเนื่องมาจากได้รับผลกระทบจาก “น้ำฝนแรก” ของฤดูร้อนที่เพิ่งตกลงมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ส่งผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตรที่กำลังงอกงาม เช่น กระเทียม ฯลฯ ต้องยืนต้นตายไปทั้งแปลง ทั้งหมู่บ้าน สร้างความเดือดร้อนและเสียหายให้กับชาวบ้านแทบหมดเนื้อหมดตัว เพราะไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย รวมทั้งไม่สามารถเก็บหัวพันธุ์ไว้ใช้ปลูกในฤดูกาลหน้าได้
ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่ ต.นาสัก แจ้งว่า เหตุเกิดจากพายุฝนที่ตกลงมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับข่าวพายุลูกเห็บถล่มลำปางนั่นเอง ซึ่งโดยปกติในทุก ๆ ปีที่ผ่านมากระเทียมของชาวบ้านจะให้ผลผลิตดีมาก หัวกระเทียมจะใหญ่ แต่ปีนี้ชาวบ้านปลูกได้แค่สองเดือนกระเทียมกำลังจะเริ่มมีหัว ฝนกลับตกลงมาจากนั้นก็มีอาการใบไหม้และแห้งทั้งหมด ซึ่งเสียหายทั้งหมดเก็บมาใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ เพราะกระเทียมไม่แก่และเริ่มเน่าแล้ว
นอก จากแปลงกระเทียมของชาวบ้านที่เสียหายแล้ว ยังมีพืชผล พืชผัก อื่น ๆ ที่ได้รับความเสียหายอีกมาก ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยเฉพาะพืชใบอ่อน รวงข้าวนาปรัง ฯลฯ ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นมาหลายวันแล้วแต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิด ชอบก็ยังไม่กระตือรือร้นที่จะรีบเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านเลย
ทั้งนี้ในพื้นที่ดังกล่าว มีแหล่งกำเนิดมลพิษ จำพวกสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และไนตรัสออกไซด์ (NOx) ได้เพียงแหล่งเดียวเท่านั้น คือ “โรงไฟฟ้าแม่เมาะ” ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่าอาจนำไปสู่ปัญหาการเกิด “ฝนกรด” (Acid Rain) ได้ เนื่องจากมีการปล่อยมลพิษดังกล่าวขึ้นไปสะสมในอากาศและก้อนเมฆมาอย่างยาวนานในฤดูร้อน ขณะเดียวกันในช่วงนี้มีความพยายามจะผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับปัญหาวิกฤตพลังงาน ในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในฤดูร้อน ตามที่ รมต.กระทรวงพลังงานเคยออกมาสร้างกระแสตื่นตระหนกเรื่อง “การประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงาน”
สมาคม ต่อต้านสภาวะโลกร้อน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล และ กฟผ. ได้เร่งรีบเข้าไปตรวจสอบและพิสูจน์ทราบปัญหาดังกล่าว และเร่งรีบชดเชยเยียวยา และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับชาวบ้านโดยด่วน เพื่อทุเลาปัญหาและลดความเคลือบแคลงใจของชาวบ้านลง และทำการตรวจสอบสภาพของโรงไฟฟ้าว่า ได้ปลดปล่อยมลพิษออกสู่บรรยากาศจนเกิดการสะสมตัวจนนำไปสู่การเกิดฝนกรดจริง ตามที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนและได้รับผลกระทบหรือไม่ รวมทั้งพิจารณาเพิกถอนการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินออกจากแผนพัฒนาไฟฟ้า หรือแผน PDP 2010 เสีย และหากรัฐบาลและ กฟผ. ยังเพิกเฉยสมาคมฯและชาวบ้านที่เดือดร้อนและเสียหาย จะนำเรื่องนี้ฟ้องร้องต่อศาลปกครองทันที
ทั้งนี้ในอดีตพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เคยเกิดเหตุการณ์ฝนกรดมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ครั้งที่รุนแรงที่สุดคือเมื่อปี 2535 จนทำให้ผลผลิตทางการเกษตร สัตว์เลี้ยง รวมถึงประชาชน ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก จนนำไปสู่การฟ้องร้องคดีกันมาอย่างยาวนานนับ 10 ปี ซึ่งขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดอยู่ กรณีดังกล่าวทำให้ชาวบ้าน ต.นาสัก เริ่มสงสัยกันว่า สวนกระเทียมและสวนผักอื่น ๆ ของพวกเขา อาจจะเจอปัญหาเดียวกันกับเหตุการณ์เมื่อปี 2535 ที่เกิดขึ้นซ้ำอีกหรือไม่มากขึ้นเรื่อย ๆ
ประกาศมา ณ วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2556
นายศรีสุวรรณ จรรยา
นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน