ทักษิณไม่สนสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น

fas fa-pencil-alt
เดลินิวส์
fas fa-calendar
8 กันยายน 2545

นายกรัฐมนตรี นำคณะตรวจเยี่ยมราษฎรที่ประสบภัยใน อ.วังชิ้น และ จ.สุโขทัย พร้อมกับแจกถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย เร่งให้ความช่วยเหลือปลูกบ้านใหม่ให้ผู้ประสบภัย ราคาหลังละ 55,000 บาท โดยกรมประชาสงเคราะห์มีงบให้หลังละ 25,000 บาท ที่เหลือรัฐบาลจ่ายให้หมด แต่ประชาชนหลายคนไม่ต้องการกลับไปอยู่ที่เดิม หวั่นจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก หลายคนไร้ที่อยู่ยังไม่รู้ชะตากรรมในชีวิตข้างหน้าจะทำอย่างไร ส่วนการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น นายกฯยังไม่สนใจเพราะยังไม่ได้ศึกษาในภาพรวม ต้องการแก้ไขปัญหาให้ความช่วยเหลือประชาชนในตอนนี้ก่อน ด้านอธิบดีกรมการปกครองเร่งสำนักงานทะเบียนราฎร์ทำทะเบียนราษฎรให้ประชาชนใน อ.วังชิ้น ใหม่ให้ครบทุกคน เพื่อเอาไว้ใช้ลงสมัครเลือกตั้งสมาชิก อบต. ที่จะมีขึ้นเร็วๆนี้ ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตที่พบศพแล้ว 33 ศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเรื่องสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากทำลายบ้านเรือนประชาชนใน อ.วังชิ้น จ.แพร่ และการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆมาเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนเดินทางไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยที่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ เกี่ยวกับเรื่องสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ว่า ยังไม่มีการพิจารณา ขณะนี้เรากำลังบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบภัยก่อน ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวยังมีเวลาที่จะต้องคิดอีก เพียงแต่มีคนถามขึ้นมาเท่านั้นเอง แต่ยังไม่มีการพิจารณากัน เรื่องเขื่อนแก่งเสือเต้นตนยังต้องศึกษาอีกมาก ต้องใช้เวลา วันนี้เราต้องทำเรื่องเร่งด่วนก่อน 

นายอภัย จันทนจุลกะ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยใน จ.แพร่ ลำปาง สุโขทัย และน่าน สร้างความเสียหายครอบคลุมพื้นที่ 9 อำเภอ 41 ตำบล 217 หมู่บ้าน โดยเฉพาะในเขต อ.วังชิ้น จ.แพร่ นอกจากบ้านเรือนราษฎรเสียหายแล้ว เอกสารเกี่ยวกับทะเบียนราษฎร์ของประชาชนต้องสูญหายไปกับอุทกภัยครั้งนี้ด้วย อาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่จะรับสมัครเลือกตั้งสมาชิก อบต. ที่อยู่ในเขต อ.วังชิ้น ที่จะเปิดรับสมัครในวันที่ 14-20 พ.ค.นี้ กรมการปกครองจึงเร่งแก้ไขปัยหาดังกล่าว โดยสั่งการให้นายอำเภอวังชิ้นอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่นำหลักฐานทางทะเบียนราษฎรไปสมัครับเลือกตัง้สมาชิก อบต. อย่างเต็มที่ และให้สำนักบริหารการทะเบียนกรมการปกครอง ในฐานะสำนักทะเบียนกลางจัดพิมพ์สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านที่ประสบภัย ได้แก่ หมู่ที่ 1-14 และหมู่ที่ 16 ต.แม่พุง หมู่ 1 หมู่ 4-7 และหมู่ 10 ต.สรอย และหมู่ 1-10 ต.ป่าสัก อ.วังชิ้น ส่งให้สำนักทะเบียนอำเภอ เพื่อมอบให้ประชาชนในแต่ละบ้านต่อไป คาดว่าในวันที่ 12 พ.ค.นี้ ทางกรมการปกครองจะจัดส่งให้ถึงสำนักทะเบียน อ.วังชิ้น ได้ 

ส่วนด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน อ.วังชิ้น นายวิชัย อึ้งพงษ์พานิช ประธานเขตไลออนส์สากล และนายสุขสันติ บัวผัน เลขาธิการสโมสรไลออนส์น่าน ได้ประชุมคณะกรรมการบริหารสโมสรไลออนส์น่านมีมติมอบเงินของสโมสรไลออนส์น่าน 20,000 บาท รวมกับเงินบริจาคของคณะกรรมการอีก 10,000 บาท เป็น 30,000 บาท และยารักษาโรค 200 ชุด รวมทั้งผ้าห่ม 200 ผืน ไปมอบให้กับสโมสรไลออนส์แพร่ ในวันที่ 12 พ.ค.นี้ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยใน อ.วังชิ้น ต่อไป 

เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางไปถึงอำเภอวังชิ้น เข้ารับฟังบรรยาสรุปเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นที่ อ.วังชิ้น ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอวังชิ้น โดยมี นายอนุกูล คุณาวงศ์ ผวจ.แพร่ เป็นผู้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า ราษฎรได้รับความเสียหายหนักใน 3 ตำบล คือ ต.สรอย ต.ป่าสัก และ ต.แม่พุง บ้านเรือนราษฎรพังทั้งหลัง 193 หลังคาเรือน และเสียหายบางส่วนกว่า 1,400 หลังคาเรือน ทางจังหวัดได้ช่วยเหลือในเบื้องต้นหลังเกิดเหตุ ขนย้ายราษฎรที่ไม่มีที่อยู่อาศัยไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวที่โรงเรียนบ้านปางไฮ ต.แม่พุง และโรงเรียนสรอยเสรีวิทยา ต.สรอย ขณะนี้มีปัญหาคือโรงเรียนใกล้เปิดเทอมใหม่ อาจจะต้องโยกย้ายราษฎรไปพักที่อื่นจนกว่าจะสร้างและซ่อมแซมบ้านเรือนเสร็จจึงให้กลับไปอยู่ที่เก่า แต่มีราษฎรบางส่วนที่สูญเสียบ้านทั้งหลังไม่ต้องการกลับไปอยู่ที่เดิม ขอให้ทางการจัดหาที่อยู่ให้ใหม่ ทางจังหวัดร่วมกับป่าไม้เขตได้สำรวจที่ในองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ที่มีอยู่ 100 ไร่ เชื่อว่าน่าจะเพียงพอสำหรับจัดสรรเป็นหมู่บ้านให้กับผู้ประสบภัยเหล่านี้ไปอยู่ใหม่ 

ส่วนสาเหตุการเกิดอุทกภัยครั้งนี้ นายอนุกูล ผวจ.แพร่ รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบว่าเกิดจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงวันที่ 1-4 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไม่เคยมีปรากฏว่าฝนตกใน จ.แพร่ มากขนาดนี้ เป็นเหตุให้ภูเขารับน้ำเอาไว้ไม่ไหวทะลายลงเกิดเป็นน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงลงจากเขาพัดพาเอาบ้านเรือนราษฎร พร้อมกับชีวิตประชาชน ส่วนอีกสาเหตุน่าจะมาจากการตัดไม้ทำลายป่าที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน โดยทางจังหวัดพยายามแก้ไขมาตลอด สำหรับยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้พบแล้ว 33 ศพ โดย 2 ศพสุดท้ายพบเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา

หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัย พร้อมกับกล่าวว่า รัฐบาลเป็นห่วงประชาชนที่ประสับภัยครั้งนี้ โดยจะปลูกบ้านให้ใหม่ที่มีการเคหะเป็นผู้ออกแบบให้เป็นบ้านที่พออยู่ได้ราคาหลังละ 55,000 บาท โดยมีงบจากประชาสงเคราะห์ให้หลังละ 25,000 บาท ที่เหลือรัฐบาลจะออกให้ทั้งหมด


ต่อข้อถามถึงเรื่องการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ใน ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ นั้น มีความคิดเห็นอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้เป็นเรื่องของปัยหาระยะยาว ตอนนี้ต้องแก้ไขในเรื่องอาชีพราษฎรให้เขากลับมามีชีวิตปกติก่อน ส่วนเรื่องระยะยาวตนมีหลายแนวทางเอาไว้ว่ากันที่หลัง เขื่อนแก่งเสือเต้นจะช่วยเรื่องนี้ได้หรือไม่นั้นต้องศึกษาในภาพรวมก่อน วันนี้เรายังไม่ได้ศึกษาเลยจึงไม่ถือว่าอยู่ในโครงการของรัฐบาล สำหรับการสร้างบ้านเรือนจำนวน 193 หลังใหม่ให้ราษฎรที่ประสบภย จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ต้องรีบปลูกสร้างให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี จึงเดินทางตรวจเยี่ยมราษฎรที่ประสบภัย พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือให้ญาติผู้เสียชีวิตและแจกจ่ายสิ่งของให้กับชาวบ้าน อ.วังชิ้น เสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางต่อไปยัง จ.สุโขทัย ที่สำนักสงฆ์บ้านปางตะเคียน ซึ่งเป็นที่พักอาศัยชั่วคราวของชาวบ้าที่ประสบภัยน้ำท่วมใน จ.สุโขทัย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เยี่ยมราษฎรพร้อมกับแจกจ่ายสิ่งของถุงยังชีพให้ชาวบ้านครบทุกคน ก่อนจะรับฟังรายงานจาก นายอมรทัต นิรัติศยกุล ผวจ.สุโขทัย หลังจากนั้นจึงเดินทางไปเยี่ยมราษฎรอีกที่สำนักสงฆ์บ้านปางสา แจกถุงยังชีพให้ราษฎรที่ประสบภัย ก่อนที่จะเดินทางกลับ 

สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน อ.วังชิ้น ของเจ้าหน้าที่ในวันนี้ มีหน่วยงานหลายหน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชนพากันเดินทางเข้าเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจราษฎร พร้อมทั้งนำสิ่งของไปแจกจ่าย ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ระดมกำลังกันช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือน่เสียหายอย่างเต็มที่ ส่วนการค้นหาศพผู้เสียชีวิตตอนนี้หยุดค้นหาแล้ว หลังจากญาติๆของผู้ที่ยังไม่ได้ศพเข้าใจว่าคงไม่มีหวังค้นศพเจอแล้ว ซึ่งถึงขณะนี้พบผู้เสียชีวิตทั้งหมดจำนวน 33 ศพ ด้านราษฎรที่ประสบภัยไร้บ้านเรือนอาศัยใน 3 ตำบล คือ ต.สรอย ต.ป่าสัก และต.แม่พุง อ.วังชิ้น ขณะนี้ยังคงอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวของโรงเรียนบ้านปางไฮ และโรงเรียนสรอยเสรีวิทยา ชาวบ้านเหล่านี้ยังไม่รู้ชะตากรรมข้างหน้าว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิต เพราะบ้านไม่มีจะซุกหัวนอน สิ้นเนื้อประดาตัว ทั้งยังกงัวลว่าเมื่อโรงเรียนเปิดภาคเรียนใหม่จะย้ายพวกชาวบ้านเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหน ทำให้ชาวบ้านหลายคนเครียดกันมาก จนบางรายมีอาการเหม่อลอยเหมือนหมดหวังในชีวิตแล้ว บางคนร้องไห้ โดยชาวบ้านเหล่านี้ต้องการหาที่อยู่ใหม่ไม่อยากกลับไปอยู่ในที่เดิม เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมซ้ำขึ้นอีก

อ้างอิง : http://www.dailynews.co.th/news/2931.html

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง