อดีตกรรมการเขื่อนโลกรุดให้กำลังใจชาวปากมูน-ราษี
SEARIN
รายงานจาก อำเภอสะตึก
จังหวัดบุรีรัมย์
เมื่อวันที่
๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๔
นางสาวเมธา ปัตคาร์
หนึ่งในอดีตกรรมาธิการ
(Commissioner)
ของคณะกรรมการเขื่อนโลก (World
Commission on Dams)
และแกนนำกลุ่มเพื่อนนาร์มาดา
(Narmada Bachao Andolan)
ได้เดินทางไปเยี่ยมชาวบ้านปากมูนและราษีไศลที่กำลังเดินเท้าทางไกลรณรงค์ให้เปิดประตูเขื่อนปากมูลและราษีไศลอย่างถาวร
เมธาร่วมเดินขบวนจากอำเภอสะตึกมุ่งหน้าไปตามทางหลวงหมายเลข
๒๒๒๖ เป็นระยะทาง ๑๒
กิโลเมตร
และได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การต่อสู้เพื่อปกป้องแม่น้ำกับชาวบ้านที่กำลังเดินขบวน
การต่อสู้เพื่อปกป้องแม่น้ำมูนและนาร์มาดาเป็นหนึ่งเดียวกัน
เมธากล่าวกับชาวบ้านปากมูนและราษีไศล
เมธาอธิบายว่าการเดินทางเข้าเยี่ยมชาวปากมูนและราษีไศลครั้งนี้ก็เพื่อให้กำลังใจและแสดงความนับถือต่อขบวนการต่อสู้
ของชาวปากมูนและราษีไศลที่ต่อสู้คัดค้านเขื่อนอย่างเข้มแข็งยาวนาน
เธอกล่าวว่า
ชาวนาร์มาดาก็เช่นเดียวกับชาวปากมูล-ราษีไศลที่ได้ต่อสู้กับเขื่อนมานาน
ชาวนาร์มาดาได้ต่อสู้กับน้ำจากเขื่อนโดยการทำสัตยาเคราะห์
ไม่ย้ายออกจากหมู่บ้านเช่นเดียวกับที่ชาวราษีเคยยืนหยัดสู้กับน้ำที่สูงขึ้นจากการปิดประตูเขื่อนเมื่อปีที่แล้ว
พวกเราได้เดินขบวนหลายครั้งเช่นเดียวกับท่าน
เมธา
คือ
นักต่อสู้คัดค้านเขื่อนที่มีชื่อเสียงระดับโลก
เธอเป็นอดีตนักวิจัยและได้เข้าไปสำรวจข้อมูลเพื่อทำวิทยานิพนธ์ในเขตลุ่มน้ำนาร์มาดาซึ่งเป็นลุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุด
ที่ไหลไปทางทิศตะวันตกของอินเดีย
แต่พบข้อมูลจากชาวบ้านว่าที่นั่นกำลังมีโครงการเขื่อนมากมายที่จะทำลายทรัพยากรและวิถีชีวิตของคนพื้นถิ่นซึ่ง
ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง
เธอจึงทิ้งวิทยานิพนธ์และร่วมต่อสู้คัดค้านเขื่อนต่างๆ
ในลุ่มน้ำนาร์มาดา
แนวคิดการสร้างเขื่อนบนลุ่มน้ำนาร์มาดามีมาตั้งแต่ยุคที่อินเดียเพิ่งได้รับเอกราชจากอังกฤษ
และเนรูห์ซึ่งเป็นผู้นำประเทศขณะนั้นก็เช่นเดียวกับผู้นำชาติเกิดใหม่ทั้งหลายที่ต้องการสร้างเขื่อน
เพื่อแสดงให้เห็นว่าอินเดียมีความทันสมัยเช่นเดียวกับนานาอารยะประเทศ
ภายใต้คำขวัญที่ว่า การสร้างเขื่อนคือการสร้างวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของอินเดียยุคใหม่
ลุ่มน้ำนาร์มาดาไหลผ่านรัฐใหญ่ๆ
ของอินเดีย ๓ รัฐ คือ
มัธยประเทศ กุจราช
และมหาราชตะ
รัฐบาลอินเดียมีแผนการสร้างซึ่งส่วนใหญ่จะทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำนาร์มาดาและแม่น้ำสาขาในเขตรัฐมัธยประเทศ โดยมีแผนการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่มากหรือเขื่อนขนาดยักษ์
๓๐ เขื่อนบนแม่น้ำสายหลัก
และเขื่อนขนาดใหญ่อีกนับร้อยเขื่อนบนแม่น้ำสาขา
การสร้างเขื่อนเหล่านี้ทำให้ต้องอพยพผู้คนมากกว่า
๒ ล้านคน เฉพาะเขื่อนซาร์ดา
ซาร์โวา
เพียงแห่งเดียวจะต้องอพยพคนถึง
๒๐๐,๐๐๐ คน
เพื่อปกป้องลุ่มน้ำและวิถีชีวิตของชนพื้นถิ่นในปี
๑๙๘๕
กลุ่มเพื่อนนาร์มาดารหรือ NBA
ถูกก่อตั้งขึ้นจึงเข้าร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ
ในลุ่มน้ำนี้คัดค้านเขื่อน
ทำให้การสร้างเขื่อนซาร์ดา
ซาร์โรวา(Sardar Sarovar)
ที่สูงกว่าเขื่อนปากมูลถึง
๘
เท่าต้องถูกระงับการก่อสร้างในระหว่างปี
๑๙๙๔๑๙๙๙
เขื่อนซาร์ดาซาโวาร์ปัจจุบันสร้างไปเพียง
๙๐ เมตรจากที่ออกแบบไว้ ๑๓๙
เมตรก็เนื่องมาจากการต่อสู้ที่เข้มแข็งของชาวนาร์มาดา
นอกจากนั้นยังทำให้ธนาคารโลกถอนตัวออกจากการสนับสนุนการลงทุนในเขื่อนแห่งนี้ รวมทั้งทำให้แหล่งทุนต่างประเทศถอนตัวออกจากเขื่อนมาเชสวาร์ในปี
๑๙๙๙๒๐๐๑
ทุกวันนี้ชาวนาร์มาดายังคงต่อสู้กับเขื่อนอย่างหนักและในฤดูมรสุมของทุกปีชาวนาร์มาดาจะทำ
สัตยาเคราะห์โดยการยืนหยัดต่อสู้ในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนมาน
(Maan Dam) เป็นต้น (ค้นข้อมูลเรื่องนาร์มาดาเพิ่มเติมได้จาก www.narmada.org )
การชดเชยใดๆ
ให้กับสิ่งที่สูญเสียจากเขื่อนนั้นเป็นไปไม่ได้
นักสร้างเขื่อนอาจจะชดเชยที่ดินต่อที่ดินได้
แต่ไม่สามารถชดเชยวิถีชีวิตและชุมชนที่สูญเสียไปจากเขื่อนได้...
แม้ว่าเราจะไม่มีเงินทุน
แต่เรามีทุนทรัพยากร
พวกเราไม่ซื้อขาย
แต่เราแลกเปลี่ยนและแบ่งปัน
ดังนั้นขอให้พวกเราต่อสู้อย่าให้ปิดเขื่อน
หากวันใดที่พี่น้องแห่งลุ่มน้ำมูนต้องการความช่วยเหลือของพี่น้องขอให้บอกมา
และเราพร้อมที่จะร่วมต่อสู้กับท่าน
เมธากล่าวกับพี่น้องปากมูน-ราศี
ก่อนที่จะเดินทางกลับ เมธาได้ร่วมทำพิธีบูชาพระแม่คงคากับปากมูลและราษีไศล
ก่อนที่จะร่วมกันประกาศว่า
เอาเขื่อนออกไป
เอาธรรมชาติคืนมา
|