eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

แ ถ ล ง ก า ร ณ์

กรณีรัฐบาลทรราชย์ทำร้ายคนจนจากลุ่มน้ำมูล

20 กรกฎาคม   2543

จากกรณีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูลและเขื่อนราษีไศล ในนาม “สมัชชาคนจน” ได้เดินทางจากสถานีรถไฟ จ.อุบล ราชธานี เข้าไปปักหลักอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคมเป็นต้นมา ทั้งนี้ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมานานกว่า 10 ปีแล้ว  พร้อมทั้งยังทวงสัญญาตามมติของ คณะกรรมการกลางแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน ที่แต่งตั้งโดย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

โดยมติดังกล่าว ได้กำหนดมาตรการเร่งด่วน ให้มีการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล เป็นเวลา 4 เดือน และเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนราษีไศล จนกว่าจะแก้ปัญหาทั้งหมด รวมทั้งการแก้ปัญหากรณีอื่นๆ รวมทั้งสิ้น  16  ข้อ แต่รัฐบาลกลับเพิกเฉย และปล่อยเวลาผ่านไปโดยไม่ได้ดำเนิน การใดๆติดตามมา  ซึ่งการที่รัฐบาลวางบทบาทเช่นนี้ ย่อมเป็นที่ชัดเจนว่า มิได้มีความจริงใจหรือมีเจตนาจะแก้ไขปัญหาของคนจนแต่ประการใด ในทางตรงข้าม ยังถ่วงเวลาและต่ออายุรัฐบาลออกไปเรื่อยๆ

กระทั่งเมื่อหัวค่ำของวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านซึ่งเป็นคนจนที่ถูกกระทำมาโดยตลอด ต้องหาทางออกด้วยการตอบโต้ที่ “เหลื่อมล้ำ” ต่อกฎหมายของบ้านเมือง ได้ปฏิบัติการรุกเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลอย่าง “สันติวิธี”  แต่แล้วรัฐบาลกลับใช้ความรุนแรงในการสลายม็อบ เป็นเหตุให้ ชาวบ้านที่มามือเปล่า ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นเลือดตกยางออกร่วม  100  คน สาหัสมากกว่า  20  คน  เท่านั้นยังไม่พอ รัฐบาลยังจับกุมคุมขังคนจนที่ ยิ่งจนยิ่งเจ็บอีก จำนวน  202  คน

นี่คือตัวอย่างหนึ่งของการ “จงใจ” ใช้ความรุนแรงจัดการกับคนจนบนแผ่นดินไทย โดยรัฐบาลถือเป็นข้ออ้างอย่าง “ชอบทำ” ว่า ชาวบ้านบุกรุก สถานที่ราชการ โดยมีความผิดตามกฎหมายอาญาเป็นตราบาปซ้ำเติม!  และกล่าวหาว่ามีมือที่สามสร้างสถานการณ์ทางการเมืองขึ้นมา รวมทั้งยัง ออกมากล่าวหาคนจนด้วยข้อหาที่รุนแรง ยิ่งกว่ารัฐบาลเผด็จการเสียอีก โดยมีเจตนาผลักไสให้คนจนตกเป็นแพะรับบาปตามเคย (กรณีทำลาย บรรยากาศการท่องเที่ยว และทำให้ภาพพจน์ของประเทศชาติเสียหาย)  นี่คือภาพของรัฐบาลทรราชย์ อันกดขี่ข่มเหงคนจนจนฝังรากลึกมานาน เป็น รัฐบาลทรราชย์ที่มองไม่เห็นหัวคนจน เป็นรัฐบาลทรราชย์ที่อยู่บนหอคอยงาช้าง ซึ่งชอบพินอบพิเทาออกกฎหมายเพื่อตอบสนองต่อ “คนรวย” ภาค ธุรกิจการเงินและแหล่งทุนข้ามชาติแต่เพียงอย่างเดียว!   

ผลจากการที่รัฐบาลใช้ความรุนแรงครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการเบี่ยงเบนประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน และยังทำให้ประชาชนไทย ทั้งมวล ไม่เข้าใจต่อสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนจนจากลุ่มน้ำมูลตามมาอีก ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังอยู่ในฐานะที่ลอยตัว  และยังยืนยันที่จะจัดการ กับคนจนตามหลัก “นิติศาสตร์” อยู่เช่นเดิม โดยไม่พยายามใช้หลัก “รัฐศาสตร์” เข้ามาช่วยคลี่คลายปัญหาให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม  และไม่ให้ เกิดการละเมิด “สิทธิมนุษยชน” ต่อคนจนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกต่อไป

เพราะฉะนั้น  เรา-เครือข่ายองค์กรประชาชนภาคอีสาน ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลดังนี้ 

1.)ให้มีการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูลและเขื่อนราษีไศล รวมทั้งการแก้ปัญหากรณีอื่นๆ อีกทั้ง 16 ข้อ  ด้วยการยอมรับมติของคณะกรรมการกลาง และให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ปฏิบัติตามมติดังกล่าวอย่างเคร่งครัด 

2.) ให้ปลดปล่อยชาวบ้านที่ถูกจับกุมจำนวน  202  คน โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น   และ

3.)ให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบต่อการใช้ความรุนแรงดังกล่าว ด้วยการยุบสภา และคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว. 

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา