บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
โครงการเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำเทินหินบูนตั้งอยู่บนแม่น้ำเทินในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ก่อสร้าง แล้วเสร็จในปี พ.ศ.
2541
เปิดดำเนินงานเมื่อวันที่ 4
เมษายน 2541 มีมูลค่ารวม 260 ล้าน
เหรียญสหรัฐโดยได้รับการสนับ
สนุนทางการเงินจากรัฐบาลประเทศนอร์เวย์
ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย
(Asain Development Bank, ADB) และแหล่งเงิน
ทุนอื่นๆทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในขณะที่ธนาคารเพื่อ
การพัฒนาเอเชีย(ADB)และผู้พัฒนาโครงการทั้งหลายกำลัง
ประกาศถึงความสำเร็จของโครงการ
โครงการ
ดังกล่าวได้ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้าน
หลาย พันคน Bruce
Shoemaker
นักวิจัยอิสระซึ่งได้อาศัยอยู่ในประเทศลาวเป็นเวลากว่า
7 ปี
ได้ลงไปศึกษาหมู่บ้านในพื้นที่ที่ได้
รับผลกระ-
ทบจากโครงการเมื่อไม่นานมานี้
ผู้ศึกษาได้ทำการสัมภาษณ์
ชาวบ้านจำนวน 60 คน ใน 10
หมู่บ้าน ระหว่างระยะเวลา 3
วัน ในการ ลงสำรวจพื้นที่
โครงการในช่วงต้นเดือนมีนาคม
พ.ศ. 2541
โดยได้ทำการสัมภาษณ์ครอบคลุมชาวบ้านใน
หลายกลุ่มทั้ง ผู้หญิง
ผู้ชาย เด็ก
เจ้าของแผงขายปลา
เจ้าของร้านค้า ชาวประมง
ผู้นำชาวบ้าน คนขับ เรือ และอื่นๆ
สิ่งสำคัญที่ได้พบจากการศึกษาพื้นที่คือการที่ชาวบ้านทั้งหมดได้รายงานเหมือนกันถึงความเดือด
ร้อนจากผลกระทบ
ที่ได้รับโครงการเขื่อนนี้ ในทั้งสามพื้นที่ที่ได้ทำการศึกษา
ทั้งบริเวณแม่น้ำกระดิ่ง
แม่น้ำ ไฮและหินบูน
และในพื้นที่บริเวณ
ตัวเขื่อน
ชาวบ้านได้กล่าวถึงผลกระทบต่อการลดลงอย่างมากของปริมาณ
ปลาที่จับได้ซึ่งได้ลดลงเป็นปริมาณถึง
30 - 90 % การสูญเสียพื้นที่เพาะปลูกริมฝั่งแม่น้ำ
การสูญเสียแหล่ง
น้ำดื่มในฤดูแล้ง
การก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการคมนาคม
และในบาง
พื้นที่ชาวบ้านต้องอพยพบ้านเรือนโดย
ที่ไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเพียงพอจากโครงการ
ผู้ศึกษายังได้พบว่าประชาชนลาวหลายพันคนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการไม่ได้รับ
การจ่ายค่าชดเชยสำหรับการ
สูญเสียของพวกเขา
ทั้งยังไม่มีแผนการรองรับใดๆในการจ่ายค่าชดเชยในอนาคตด้วย
ภายใน
งบประมาณโครงการทั้งหมด 260
ล้านเหรียญสหรัฐ
ซึ่งรวมถึงงบประมาณสำหรับโครงการลดปัญหาผล
กระทบจำนวน 2.59
ล้านเหรียญสหรัฐนั้นมีเพียง
50,000
เหรียญสหรัฐเท่านั้นที่ได้ถูกจัดสรรสำหรับการ
อพยพและจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ได้รับผลกระทบ
ในความเป็นจริงแล้ว 67%
ของงบประมาณในโครงการลด
ปัญหาความเดือดร้อนแก่ผู้ได้รับผลกระทบนี้ได้ถูกใช้ไปในการสร้างอ่างพักน้ำและ
ปรับปรุงระบบการไหล
ของน้ำลงในแม่น้ำเทินซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวควรจะอยู่ในส่วนงบประมาณจัดสรรสำหรับการก่อสร้าง
โครงสร้างพื้นฐานตั้งแต่เริ่มก่อสร้างโครงการ
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2539
รัฐบาลลาวซึ่งได้ทำตามคำแนะนำของ
ธนาคารเพื่อ
การพัฒนาเอเชีย(ADB)ได้เซ็นสัญญากับบริษัท
เทินหินบูนเพาเวอร์ (Theun-Hinboun
Power Company, THPC) ให้ทาง
บริษัทพ้นจากความรับผิดชอบในมาตรการแก้ปัญหาผลกระทบและจ่ายค่าชดเชย
ใดๆที่จะเกิดขึ้นอีกตลอดอายุโครงการ
แทนที่จะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย(ADB)และบริษัทเทินหินบูนเพาเวอร์
(THPC)
กลับป่าวประกาศถึงความสำเร็จของโครงการโดยที่ปฏิเสธที่จะรับรู้ถึงผลกระทบใน
ด้านลบที่กำลังเกิดขึ้นต่อชีวิต
ของประชาชน
ไม่มีการตรวจสอบจากภายนอกใดๆ
แม้กระทั่งในเรื่องที่ว่างบ
ประมาณในการจ่ายค่าชดเชยที่ถูกจัดสรรขึ้น
ในจำนวนเล็กน้อยนั้นได้ถูกส่งถึงมือผู้ได้รับผล
กระทบจริงหรือไม่และไม่มีระบบการจัดทำเอกสารข้อมูลที่ถูกต้องในเรื่อง
การสูญเสียทางเศรษฐกิจของชาวบ้าน
บริษัทเทิน หินบูนเพาเวอร์(THPC)เองก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงการพยามที่จะติดตาม
ค้นหา หรือ
ตรวจสอบความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ
ขั้นตอนแรกในการจัดการกับประเด็นที่กล่าวถึงข้างต้นควรจะเป็นบทบาทขององค์กรทุนภาครัฐ
ของโครงการซึ่ง หมายถึง NORAD
และธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย
(ADB) ในการสนับสนุนให้มีการ
ศึกษาและประเมินผลเพิ่มเติมอย่าง
อิสระในประเด็นปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นดังที่ได้กล่าวในรายงานฉบับนี้
ทั้งนี้
การศึกษาและประเมินผลเพิ่มเติมนี้จะเป็นสิ่ง
สำคัญในเบื้องต้นที่จะช่วยให้เกิดการแก้ไขปัญหาและการชดเชยแก่ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการซึ่งถือว่า
เป็นผู้ขาด
โอกาสและทางเลือกทางเศรษฐกิจ
ดังนั้น
การดำเนินงานนี้จึงควรเกิดขึ้นอย่าง
เร่งด่วนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าบริษัทจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อต้นทุนที่แท้จริงของโครงการตามส่วนแบ่ง
ของตน ซึ่งเป็น
ต้นทุนที่ได้ถูกเพิกเฉยละเลยและถูกบิดเบือนจากความเป็นจริงโดยบริษัทที่ปรึกษาซึ่งเจ้าของ
ของบริษัทนี้ก็คือหนึ่งในผู้ร่วม
ลงทุนในช่วงเริ่มต้นของโครงการ
จากการดำเนินงานที่ผิดพลาดนี้อาจจะก่อ
ให้เกิดข้อถกเถียงทางกฎหมายว่าข้อตกลงในการ
ให้สัมปทานนั้นควรจะนำกลับมาเจรจาใหม่
ทั้งนี้เพื่อเรียก
ร้องให้ผู้ร่วมลงทุนเข้ามาร่วมรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายในการลด
ปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้แล้ว
ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย(ADB)ควรจะต้องรับผิดชอบในการให้การช่วยเหลือ
การแก้ปัญหาเหล่านี้ดัง
นโยบายที่ได้ประกาศไว้ว่าประชาชนไม่ควรที่จะถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพที่เลวร้ายลงกว่าเดิมอัน
เนื่อง
มาจากโครงการที่ทางธนาคารได้เป็นผู้สนับสนุนทางการเงิน
ผู้ทำการศึกษามีความหวังเป็นอย่างยิ่งต่อความรับผิด
ชอบของ
หน่วยงานของรัฐบาลลาวเมื่อได้รับทราบถึงข้อมูลความจริงของผลกระทบอย่างรุนแรงที่กำลังเกิด
ขึ้นกับประชาชนของตน
อย่างถูกต้องชัดเจนแล้วจะได้เร่งดำเนินการแก้ปัญหาเหล่านั้นอย่างเร่งด่วนและ
ยุติธรรม
|